‘สทท.’ชี้ดัชนีความเชื่อมั่นท่องเที่ยวQ3ปรับตัวดี
สทท.แจงดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวQ3 ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี เผยธุรกิจที่มีฐานลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติมั่นใจกว่าผู้ประกอบการที่ทำตลาดคนไทย ทั้งคาดการณ์Q4 ความเชื่อมั่นยังดี เชื่อหลังการปรับตัวของผู้ประกอบการต่อการจับกุมทัวร์ศูนย์เหรียญ จะทำให้สถานการณ์ตลาดจีนกลับสู่ภาวะปกติ
[caption id="attachment_100066" align="aligncenter" width="700"]
คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติชอง สทท.[/caption]
นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 3 ของปีนี้ เท่ากับ 98 ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงปกติ และแนวโน้มความเชื่อมั่นผู้ประกอบการมีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี โดยผู้ประกอบการที่มีลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดการณ์สถานการณ์ดีกว่ากลุ่มที่มีลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยเล็กน้อย
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่วางแผนล่วงหน้าสั้นกว่า 3 เดือน โดยส่วนใหญ่รู้สึกพึงพอใจในการเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย มีเพียงการคมนาคมที่ยังคงเป็นด้านเดียวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความพอใจต่ำกว่าปกติ ส่วนนโยบายที่ต่างชาติมองว่าจะมีประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวของไทยมากที่สุด คือ การเพิ่มความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ตามมาด้วยการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของผู้ให้บริการ และการพัฒนาระบบฐานข้อมูลให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงได้ง่าย
"ในช่วงต้นปี 2559 สถานการณ์การท่องเที่ยวไทยอยู่ในระดับปกติ โดยมีปัจจัยบวกที่สำคัญคือ การเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และในช่วงปลายปี2559 ผู้ประกอบการมีแนวโน้มความเชื่อมั่นดีขึ้นจากต้นปีเช่นกัน สอดคล้องกับคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย สถานการณ์ความสงบในประเทศ และการปรับตัวของผู้ประกอบการต่อการจับกุมทัวร์ศูนย์เหรียญ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้"
นายอิทธิฤทธิ์ กล่าวต่อว่า การจับกุมนอมินี เชื่อมโยงทัวร์ศูนย์เหรียญ ระยะสั้นจะส่งผลกระทบต่อตลาดทัวร์จีนอยู่บ้างในบางพื้นที่เช่นกรุงเทพฯและพัทยา แต่เมื่อผู้ประกอบการปรับตัวได้ก็จะเข้าสู่สถานการณ์ปกติ และจะเป็นการแก้ปัญหาที่จะดีในระยะยาว และทางรัฐบาลจีนก็เห็นด้วย เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงให้แก่การท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งจะได้นักท่องเที่ยวที่มี่คุณภาพ และไม่มีปัญหาเรื่องการหลอกลวงนักท่องเที่ยวและในภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเที่ยวด้วยตัวเอง(เอฟไอที)ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ จะเท่ากับ 102 ใกล้เคียงปกติสทท.คาดการณ์ว่าช่วงไตรมาส4 นี้ ถ้าไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติใดๆคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 9.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 17.76%และในปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทย 33.93 ล้านคน สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.74 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้สทท.ยังมีข้อเสนอแนะภาครัฐ โดยอยากให้พัฒนาการคมนาคมขนส่งในการท่องเที่ยว อาทิ การดูแลคุณภาพการให้บริการขนส่ง แก้ไขปัญหาการคิดค่าโดยสารสูงกว่ามาตรฐาน เพิ่มบริการรถสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยว การส่งเสริมการท่องเที่ยวในวันธรรมดา โดยสนับสนุนให้หน่วยงานรัฐจัดสัมมนาในต่างจังหวัดในวันธรรมดา ส่งเสริมให้ภาคเอกชนจัดสัมมนาในต่างจังหวัดในวันธรรมดา ซึ่งอาจจะใช้มาตรการจูงใจต่างๆเช่นมาตรการด้านภาษี การสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี ในการพัฒนาการท่องเที่ยว เช่น การพัฒนาระบบข้อมูลการท่องเที่ยวของประเทศที่สามารถเข้าถึงและใช้ได้ง่ายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ การใช้ไอทีในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการ ทั้งการติดต่อและจองบริการ การแก้ไขปัญหาหลอกลวงนักท่องเที่ยว การให้บริการที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,194 วันที่ 22 - 24 กันยายน พ.ศ. 2559
[caption id="attachment_100066" align="aligncenter" width="700"]
นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 3 ของปีนี้ เท่ากับ 98 ซึ่งจัดว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงปกติ และแนวโน้มความเชื่อมั่นผู้ประกอบการมีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงต้นปี โดยผู้ประกอบการที่มีลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดการณ์สถานการณ์ดีกว่ากลุ่มที่มีลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยเล็กน้อย
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่วางแผนล่วงหน้าสั้นกว่า 3 เดือน โดยส่วนใหญ่รู้สึกพึงพอใจในการเดินทางมาเที่ยวประเทศไทย มีเพียงการคมนาคมที่ยังคงเป็นด้านเดียวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความพอใจต่ำกว่าปกติ ส่วนนโยบายที่ต่างชาติมองว่าจะมีประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวของไทยมากที่สุด คือ การเพิ่มความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ตามมาด้วยการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของผู้ให้บริการ และการพัฒนาระบบฐานข้อมูลให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงได้ง่าย
"ในช่วงต้นปี 2559 สถานการณ์การท่องเที่ยวไทยอยู่ในระดับปกติ โดยมีปัจจัยบวกที่สำคัญคือ การเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และในช่วงปลายปี2559 ผู้ประกอบการมีแนวโน้มความเชื่อมั่นดีขึ้นจากต้นปีเช่นกัน สอดคล้องกับคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทย สถานการณ์ความสงบในประเทศ และการปรับตัวของผู้ประกอบการต่อการจับกุมทัวร์ศูนย์เหรียญ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดทิศทางการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้"
นายอิทธิฤทธิ์ กล่าวต่อว่า การจับกุมนอมินี เชื่อมโยงทัวร์ศูนย์เหรียญ ระยะสั้นจะส่งผลกระทบต่อตลาดทัวร์จีนอยู่บ้างในบางพื้นที่เช่นกรุงเทพฯและพัทยา แต่เมื่อผู้ประกอบการปรับตัวได้ก็จะเข้าสู่สถานการณ์ปกติ และจะเป็นการแก้ปัญหาที่จะดีในระยะยาว และทางรัฐบาลจีนก็เห็นด้วย เพื่อเป็นการสร้างความมั่นคงให้แก่การท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งจะได้นักท่องเที่ยวที่มี่คุณภาพ และไม่มีปัญหาเรื่องการหลอกลวงนักท่องเที่ยวและในภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเที่ยวด้วยตัวเอง(เอฟไอที)ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ จะเท่ากับ 102 ใกล้เคียงปกติสทท.คาดการณ์ว่าช่วงไตรมาส4 นี้ ถ้าไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติใดๆคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 9.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 17.76%และในปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวไทย 33.93 ล้านคน สร้างรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.74 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้สทท.ยังมีข้อเสนอแนะภาครัฐ โดยอยากให้พัฒนาการคมนาคมขนส่งในการท่องเที่ยว อาทิ การดูแลคุณภาพการให้บริการขนส่ง แก้ไขปัญหาการคิดค่าโดยสารสูงกว่ามาตรฐาน เพิ่มบริการรถสาธารณะในแหล่งท่องเที่ยว การส่งเสริมการท่องเที่ยวในวันธรรมดา โดยสนับสนุนให้หน่วยงานรัฐจัดสัมมนาในต่างจังหวัดในวันธรรมดา ส่งเสริมให้ภาคเอกชนจัดสัมมนาในต่างจังหวัดในวันธรรมดา ซึ่งอาจจะใช้มาตรการจูงใจต่างๆเช่นมาตรการด้านภาษี การสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี ในการพัฒนาการท่องเที่ยว เช่น การพัฒนาระบบข้อมูลการท่องเที่ยวของประเทศที่สามารถเข้าถึงและใช้ได้ง่ายสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ การใช้ไอทีในการทำธุรกิจของผู้ประกอบการ ทั้งการติดต่อและจองบริการ การแก้ไขปัญหาหลอกลวงนักท่องเที่ยว การให้บริการที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,194 วันที่ 22 - 24 กันยายน พ.ศ. 2559