คิกออฟตอกเสาเข็ม ‘สุวรรณภูมิ’เฟส2 ITD จ่อกินรวบทุกงานในสนามบิน

30 สิงหาคม 2559
ในที่สุดแผนแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคนี้ก็เริ่มเดินหน้าก่อสร้างได้ หลังบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือทอท.ได้ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้าง 3 สัญญาในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ2554-2560) และเตรียมจะเปิดประมูลอีก 4 สัญญาในเร็ว ๆ นี้ (ตารางประกอบ) ควบคู่ไปกับแผนการก่อสร้างอีก 2 โครงการใหญ่ตามแผนแม่บทคือโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (เทอร์มินัล 2) และโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 (รันเวย์3) ที่จะเกิดขึ้นในขั้นต่อไป มูลค่าการลงทุนรวมกันกว่า 1.16 แสนล้านบาท

[caption id="attachment_91019" align="aligncenter" width="700"] ไทม์ไลน์โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (งบประมาณปี 2554-2560) ไทม์ไลน์โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (งบประมาณปี 2554-2560)[/caption]

ชู 3 โครงการใหญ่ขยายศักยภาพ

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผอ.ใหญ่ ทอท.กล่าวว่า การพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปัจจุบัน ทอท.มี 3 โครงการใหญ่ ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554-2560) กรอบวงเงิน 6.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างเริ่มจะก่อสร้าง เพื่อขยายการรองรับผู้โดยสารจาก 45 ล้านคนต่อปีเป็น 60 ล้านคนต่อปีในปี 2562 โดยโครงการนี้ ปัจจุบันปรับลดก่อสร้างไปได้แล้ว 9,046 ล้านบาทซึ่งไม่ได้เป็นการปรับลดแบบหรือลดพื้นที่ แต่ลดจากการซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่เน้นขายราคาส่ง เช่นราคาคอนกรีต จาก 2,800 บาทต่อคิว ก็ต่อรองให้เหลือ 2,200 บาทต่อคิว 2.โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2(Terminal 2) ประมาณการงบประมาณ 3.4หมื่นล้านบาท ขยายการรองรับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 90 ล้านคนต่อปี และ 3.โครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 และ Perimeter Taxiway ประมาณการงบประมาณ 2หมื่นล้านบาท โดย 2 โครงการหลังนี้ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกข้อกำหนดเพื่อจัดจ้างที่ปรึกษาออกแบบ ซึ่งทอท.มีแผนดำเนินการก่อสร้างคู่ขนานกันไป

 "ไอทีดี"ควงมิซูบิชิบิดงานเอพีเอ็ม

ด้านนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือไอทีดีกล่าวว่า โครงการขยายสนามบินในระยะที่ 2 ที่บริษัทฯจะเข้าไปดำเนินการก่อสร้างงานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1(ชั้นB2 ชั้นB1และชั้นG) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่1 ซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จในอีก 2 ปีจากนี้

"เรามีความมั่นใจว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด เนื่องจากบริษัทฯมีประสบการณ์งานก่อสร้างอากาศยานทั้งในประเทศและต่างประเทศ และก่อนหน้านี้ก็เป็นผู้ก่อสร้างในโครงการหลักต่าง ๆ ทั้งอาคารผู้โดยสาร อาคารเทียบเครื่องบิน งานก่อสร้างพื้นผิวทางวิ่ง ทางขับ ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเฟสที่ 1 ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2540"

ทั้งนี้ทอท.ยังเตรียมจะเปิดประมูลไม่ว่าจะเป็นงานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1(ชั้น 2 - 4) และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานระบบย่อย) งานจ้างก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารทิศตะวันออกอาคารสำนักงานสายการบินและที่จอดรถด้านทิศตะวันออก งานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (เอพีเอ็ม) งานเหล่านี้

" บริษัทก็เตรียมจะเข้าร่วมประกวดราคาด้วยเช่นกัน ซึ่งก็อยู่ระหว่างการเตรียมงาน โดยงานด้านการก่อสร้าง บริษัทฯมีประสบการณ์ความพร้อมอยู่แล้ว แต่ในส่วนของงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (เอพีเอ็ม) ทางไอทีดีฯจะร่วมมือกับทางบริษัทมิตซูบิชิฯ เพื่อยื่นเสนอประกวดราคาในงานเอพีเอ็มด้วย"

เล็งร่วมประมูลเทอร์มินัล 2-รันเวย์ 3

ประธานไอทีดี ยังกล่าวอีก นอกจากนี้โครงการขยายศักยภาพสนามบินสุวรรณภูมิ ที่ยังมีอีก 2 โครงการใหญ่ คือ อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 และโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 หากมีการเปิดประมูล บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเข้าร่วมเสนอตัวก่อสร้างในทุกงาน เพราะมีความเชี่ยวชาญ

เช่นเดียวกับผู้ประกอบการอีก 2 รายที่เป็นผู้ชนะการประกวด ในอีก 2 สัญญา งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ของกิจการค้าร่วมเอส จี แอนด์ อินเตอร์ลิ้งค์ และงานที่ปรึกษาและควบคุมงาน ที่กลุ่มบริษัทที่ปรึกษาเอสซีเอสเป็นผู้ชนะการประมูล และหนึ่งในกลุ่มเอสซีเอส ซึ่งมีบริษัท ทีม คอลซัลติ้ง เอนจิเนียริ่งแอนด์แมเนจเมนท์ ซึ่งเคยเป็นผู้คุมงานก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิในเฟส 1 มาก่อน ต่างก็มองโอกาสที่จะชิงงานก่อสร้างอีกหลายโครงการด้วยเช่นกัน

นายอดิศักดิ์ เองมหัสสกุล ผู้จัดการทั่วไปบริษัทอินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคที่บริษัทฯได้เข้าไปดำเนินการนั้น จะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 31 พฤษภาคมปี2562 โดยจะมีเรื่องของการสร้างระบบไฟฟ้า 115 KV โรงสูบน้ำ และงานสาธารณูปโภคต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และที่ผ่านมาบริษัทก็เคยทำเรื่องระบบงานไฟเบอร์ออพติกเน็ตเวิร์กในเฟส 1 มาก่อน ก็มีความคุ้นชินกับพื้นที่ แต่ยอมรับว่างานล่าสุดที่ชนะการประมูล มูลค่า 1.9 พันล้านบาท เป็นงานที่ใหญ่ ซึ่งก็จะเป็นการสร้างโพรไฟล์ขึ้นไปอีกขั้น เพื่อขยายการดำเนินธุรกิจในโครงการต่างๆที่จะเกิดในขึ้นในเฟสต่อไปของสนามบินสุวรรณภูมิ

นายธงชัย มันตภาณีวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัททีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่งแอนด์แมเนจเม้นท์ จำกัด เผยว่า นอกจากการเป็นหนึ่งในทีมปรึกษาและควบคุมงานโครงการจะดำเนินการทั้งหมดในช่วงเวลา 39 เดือนแล้ว ทางทีม คอนซัลติ้ง ก็มองการเสนอตัวในโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร 2 และรันเวย์ 3 ของสนามบินสุวรรณภูมิ ที่เมื่อรัฐบาลมีนโยบายในการจ้างที่ปรึกษาและออกแบบเมื่อไหร่ ทางบริษัทก็สนใจที่จะร่วมประมูลอีกเช่นกัน

ชิงเค้กสร้างสนามบินใหม่อีก 3 ปท.

อย่างไรก็ตามการสร้างโพรไฟล์ มีผลงานสร้างสนามบินขนาดใหญ่ ย่อมต่อยอดไปถึงรุกไปประมูลก่อสร้างสนามบินในต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง โดย นายเปรมชัย ยอมรับว่า จากประสบการณ์ ในงานก่อสร้างสนามบิน ที่เคยทำในต่างประเทศ อย่าง สนามบินนานาชาติกัลกัตตาและสนามบินอามีดาบัต ประเทศอินเดีย สนามบินมัณฑะเลย์ สนามบินปากเซ เป็นต้น

ในปีนี้ก็จะร่วมประมูลงานก่อสร้าง สนามบินดักก้า ประเทศบังกลาเทศ และสนามบินในปากีสถาน มูลค่าโครงการราวแห่งละ 1 หมื่นล้านบาท และเตรียมจะร่วมกับพันธมิตรเข้าประกวดราคางานก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ของประเทศเวียดนามที่นครโฮจิมินห์ในปีหน้า ซึ่งจะเป็นสนามบินที่ใหญ่กว่าสนามบินสุวรรณภูมิในเฟส 2 เพราะรองรับผู้โดยสารได้ 75 ล้านคน มูลค่าการลงทุนอยู่ที่หลักแสนล้านบาท

นี่คือความคืบหน้าแผนขยายสนามบินสุวรรณภูมิ และโอกาสทองผู้ของรับเหมาที่ส่วนใหญ่ก็เคยผ่านงานในเฟส 1 มาแล้ว ทั้งสิ้นและยังเปิดโอกาสให้ต่อยอดรุกไปต่างประเทศอีกด้วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,187 วันที่ 28 - 31 สิงหาคม พ.ศ. 2559