ยกทัพสินค้าไทยบุก‘ตองยี’ พาณิชย์ผนึกเอกชนเชียงรายดันส่งออกเพิ่ม-ป้องจีนตีตลาด

08 ส.ค. 2559 | 02:00 น.
กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ไทย จับมือ สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา และหอการค้าเชียงราย นำคาราวานสินค้าไทยบุกตองยี เมืองหลวงรัฐฉาน จัดงานแสดงสินค้า ป้องสินค้าจีนตีตลาดเพื่อรักษามาร์เก็ตแชร์-ครองความนิยมในใจผู้บริโภคชาวเมียนมา

[caption id="attachment_79740" align="aligncenter" width="700"] สินค้าสำคัญของไทยที่เอกชนเตรียมขนไปบุกตลาด "ตองยี" สินค้าสำคัญของไทยที่เอกชนเตรียมขนไปบุกตลาด "ตองยี"[/caption]

จากนโยบายรัฐบาลที่ต้องการขยายตลาดใหม่ๆไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเมียนมา เป็นตลาดค้าชายแดนที่มีลู่ทางสดใสและมีศักยภาพในการเติบโตสูงสุด มีมูลค่าเฉลี่ยมากกว่าปีละแสนล้านบาท เป็นผลจากปัจจัยด้านภูมิศาสตร์ที่มีพรมแดนติดต่อกันกว่า 2,400 กม. เอื้อให้เกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างประชาชนตามแนวชายแดนทั้ง 2 ประเทศ อีกปัจจัยที่เป็นผลพวงมาจากนโยบายของรัฐบาลเมียนมา ที่ต้องการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบเสรีและเปิดรับกับโลกภายนอกมากขึ้นนับเป็นโอกาสของไทยในการขยายช่องทางการค้า

ล่าสุดผู้สื่อข่าว "ฐานเศรษฐกิจ" ประจำจังหวัดเชียงราย รายงานว่า ระหว่างวันที่ 26-30 สิงหาคม 2559 ที่จะถึงนี้ กองความร่วมมือการค้าและการลงทุน กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหอการค้าจังหวัดเชียงราย, สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา สาขาเชียงราย, หน่วยประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา ประจำพื้นที่ 1 กองกำลังผาเมือง กองทัพบก จะได้จัดโครงการส่งเสริมและขยายการค้าชายแดนที่เมืองตองยี รัฐฉาน สหภาพเมียนมา โดยจะจัดงานแสดงสินค้าขึ้นภายในบริเวณ National State Stadium ในเมืองตองยี รัฐฉาน สหภาพเมียนมา เพื่อเป็นการส่งเสริมและขยายการค้าชายแดนของ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยเน้นกิจกรรมตลาดเชิงรุกเพื่อผลในการปกป้องส่วนแบ่งการตลาด และแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดสินค้าจากคู่แข่งขัน ผลักดันการค้าชายแดนให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

นางสาวผกามาศ เวียร์รา ประธานคณะกรรมการสาขาเชียงราย สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-เมียนมา และรองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ตองยี เมืองหลวงรัฐฉาน ถือเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าไทยขนาดใหญ่ที่สุดของรัฐฉาน และยังถือว่าเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าขนาดใหญ่ 1 ใน 3 ของเมียนมา (ย่างกุ้ง, มัณฑะเลย์ และตองจี) ดังนั้นการไปจัดงานแสดงสินค้าที่ตองยี จึงเป็นการเปิดโอกาสให้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตของไทย โดยเฉพาะสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่ได้เข้าตลาดเมียนมาได้ทำการแนะนำสินค้ากับผู้บริโภคโดยตรง อีกทั้งยังจะเป็นการส่งเสริมสินค้าไทย ให้คงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการปกป้องสินค้าไทยไม่ให้สินค้าจากประเทศอื่นมาตีตลาด

"สถานการณ์ ณ ปัจจุบันถือว่าสินค้าไทยมีความได้เปรียบสินค้าจากประเทศอื่นๆ เนื่องจากสินค้าไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล มีข่อบ่งบอกการใช้ และแสดงวันเดือนปีที่ผลิตและวันเดือนปีที่หมดอายุไว้อย่างชัดเจน คุณลักษณะที่ดีของสินค้าไทยทำให้เป็นสินค้าที่ครองความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคชาวเมียนมา" นางสาวผกามาศ กล่าว
การจัดงานแสดงสินค้าเพื่อการค้าชายแดนที่ตองยีในครั้งนี้ ฝ่ายไทยได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก กระทรวงการวางแผนเศรษฐกิจและการพาณิชย์ รัฐฉาน สหภาพเมียนมา รวมทั้งภาคเอกชนทั้งหอการค้าตองยี, หอการค้าเชียงตุง และหอการค้าท่าขี้เหล็ก หลังได้มีการชิมลางโดยหอการค้าจังหวัดเชียงรายและหอการค้าจังหวัดท่าขี้เหล็ก ได้ร่วมกันจัดงานแสดงสินค้าที่ท่าขี้เหล็กแล้วปรากฏว่าได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการค้าและประชาชนชาวเมียนมาเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่สนใจจะเข้าร่วมงานแสดงสินค้าไทยในตองยีครั้งนี้สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ กองความร่วมมือการค้าและการลงทุน กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หรือติดต่อที่หอการค้าเชียงราย และหอการค้าจังหวัดเชียงรายสาขาแม่สาย, เชียงแสน และเชียงของได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ดร.อนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงรายกล่าวว่าขณะนี้ หอการค้าฯอยู่ระหว่างคัดเลือกสินค้าที่เป็นที่นิยมของชนกลุ่มน้อยในตองยี ซึ่งจะเน้นสินค้าอุปโภค-บริโภค สบู่ ยาสีฟัน แชมพู เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสมุนไพร สินค้าโอท็อปที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงราย อาทิ สินค้าเกษตรแปรรูป บ้านผลไม้อบแห้ง, อาหาร, มาสก์หน้าทองคำใยไหมเป็นต้น สำหรบเส้นทางที่จะขนส่งสินค้าจะใช้พรมแดนแม่สายซึ่งจะเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษสำคัญ ผ่านเชียงตุง และไปตองยี ซึ่งเป็นเส้นตรงกว่าต้องอ้อมไปทางอำเภอแม่สอดจังหวัดตาก

สอดคล้องกับแหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า การจัดงานครั้งนี้เป็นการสู้กับสินค้าจีน ซึ่งไทยเราจะต้องบุกตลาดตองยีเพื่อปกป้องส่วนแบ่งการตลาดจีนซึ่งปัจจุบันได้สร้างสะพานหลงเจียงผ่านสิบสองปันนาและมาลงที่รัฐฉานสะดวกต่อการขนส่งสินค้า อย่างไรก็ดี สินค้าไทยเหนือกว่าจีนเนื่องจากมีอย. หรือได้เครื่องหมายอย.จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ขณะที่จีนมีปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพและปลอมแปลงสินค้าที่ชนกลุ่มน้อยต้องการคือสินค้าที่ทำจากสมุนไพรโดยเฉพาะเครื่องประทินผิวและสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะรองเท้าฟองนํ้า แบบหนีบ เคยนำไป 3 หมื่นคู่ ขายหมดเพียงวันเดียว โดยจะเปิดให้เอกชนที่สนใจนำสินค้าไปขายประมาณ 130-150 คูหา

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,181 วันที่ 7 - 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559