4บิ๊กฟันธงตลาดนาฬิกาฟื้น ขนนิวคอลเลกชันร่วมอีเวนต์ดูดทัวริสต์-นักสะสม

28 ก.ค. 2559 | 05:00 น.
บิ๊กโฟร์วงการนาฬิกา “เพนดูลัม-โทรคาเดโร-ไซโก-ทีเอสแอล” ประสานเสียงรับตลาดส่งสัญญาณฟื้นตัว นักสะสมยังควักเงินซื้อ นักท่องเที่ยวเพิ่ม แบรนด์ดังมั่นใจศักยภาพเล็งปักหมุดบูติก หลังฐานเศรษฐกิจโยกสู่เอเชียด้าน “สยามพารากอน” ชี้ตลาด 4.5 หมื่นล้านยังคึกคักคาดสิ้นปีโตทะลุ 10% ล่าสุดทุ่ม 40 ล้านจัดวอทช์ เอ็กซ์โปขนทัพนาฬิกากว่า 3 หมื่นเรือน มูลค่ากว่าหมื่นล้านบาทขายตัดหน้าเซ็นทรัล วอทช์ แฟร์ที่จะมีพรีเซล 8 สิงหาคมนี้

นางยูกิ ศรีกาญจนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพนดูลัม จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายนาฬิกา แฟรงค์มูเลอร์ ลองจิ้น ไบรท์ลิ่ง ฯลฯ เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดนาฬิกานำเข้าในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาส่งสัญญาณฟื้นตัว โดยบริษัทเองมีการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดี แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าจะมีการเติบโตเช่นนี้ และคาดว่าจนถึงสิ้นปีจะมีการเติบโต 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยวัดจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และนิยมเลือกซื้อนาฬิกาที่ราคาสูง ประดับเพชร เป็นต้น

โดยปีนี้บริษัทเตรียมส่งคอลเลกชันใหม่ ออกมาทำตลาดในงานสยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2016 รวมทั้งนำแบรนด์ ไบรทลิ่ง (Breitling) มาจัดแสดงคอลเลกชันใหม่ นำนักสะสมและผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาสู่โลกของไบรทลิ่งสัมผัสจิตวิญญาณแห่งการบินและนวัตกรรมนาฬิกาสวิสชั้นสูงใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยการเนรมิตพาร์คพารากอนเป็นสนามบินย่อย นำเครื่องบินเจ็ทต้นแบบความยาว 12 เมตร มาจอดเป็นที่แรกและที่เดียวในเอเชียเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์และสร้างความแปลกใหม่ ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายเพิ่มขึ้นโดยคาดหวังนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศแถบเอเชีย อาทิ จีน มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยวจากแถบทวีปยุโรปจะเข้ามาใช้บริการ

"ตลาดนาฬิการะดับลักชัวรีในเมืองไทย ยังมีศักยภาพที่จะโตได้อีก เห็นได้จากการที่บริษัทผู้ผลิตนาฬิกาแบรนด์ระดับโลก สนใจและแสดงตัวที่จะเข้ามาเปิดบูติกในสยามพารากอน เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ขณะที่กลุ่มนักสะสมยังเป็นกลุ่มที่แข็งแรง และเลือกซื้ออย่างสม่ำเสมอ"

ด้านนายตุนท์ มหาดำรงค์กุล ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายการตลาด บริษัท โทรคาเดโร ไทม์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายนาฬิกากุชชี่ , อิซเซ่ มิยาเกะ , โอเรียนท์ , โอริส ฯลฯ กล่าวว่า ครึ่งปีหลังเชื่อว่าลูกค้าจะมีความมั่นใจในการจับจ่ายและเลือกซื้อนาฬิกามากขึ้น เห็นได้จากบรรยากาศในช่วงครึ่งปีแรกที่ขยับตัวดี ทำให้บริษัทเตรียมนำเข้าคอลเลกชันใหม่ และแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาด และปรับให้ครอบคลุมกับสภาพเศรษฐกิจไทยและกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

เช่นเดียวกับนายฮารุมิตซึ อากาชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซโก ประเทศไทย จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายนาฬิกา "ไซโก" กล่าวว่า คาดว่าในปีนี้ไซโกจะมียอดขายเติบโต 10% จากฐานลูกค้ากลุ่มส่วนใหญ่ โดยราคาที่ได้รับความนิยมจะอยู่ในระหว่าง 1.5-3 หมื่นบาทต่อเรือน ขณะที่รุ่นพิเศษ เช่น Seiko Prospex Zimbe Limited Edition และรุ่นพิเศษอื่นๆ โดยราคาสินค้าจะมีความหลากหลายและย่อมเยา ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น และจะช่วยผลักดันให้บริษัทมียอดขายตามเป้าหมายที่วางไว้

ขณะที่นายศาศวัต ตัณมานะศิริ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที เอส แอล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ แทคฮอยเออร์ กล่าวว่า ภาพรวมของบริษัทในครึ่งปีแรกมีการเติบโตเกือบ 10% ซึ่งถือว่าดีกว่าปีก่อน และคาดว่าทั้งปีน่าจะมีการเติบโตในทิศทางที่ดีด้วย อย่างไรก็ดีปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังคือเรื่องของการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดทุน และหุ้น ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนหรือซื้อสินค้าเพื่อถือเงินสดแทน แต่โดยภาพรวมยังเชื่อมั่นในกำลังซื้อของผู้บริโภคทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

"การลงมติถือเป็นปัจจัยหลักที่จะมีผลต่อครึ่งปีหลัง รวมถึงการลุ้นตัวเลขการจัดงานใน 2 อีเวนต์ใหญ่ของตลาดนาฬิกา คือวอทช์ เอ็กซ์โป 2016 ของสยามพารากอน และวอทช์ แฟร์ ของเซ็นทรัล ซึ่งหากถึงเดือนกันยายนนี้ยังไม่ดีขึ้น บริษัทก็ต้องจัดโปรโมชั่นขึ้นเอง เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย นอกเหนือจากการนำเข้านาฬิกาคอลเลกชันใหม่ ที่มีระดับราคา 4 หมื่นบาท จากเดิมที่มีราคาเฉลี่ย 5-6 หมื่นบาทเข้ามาทำตลาด ซึ่งถือเป็นนโยบายของบริษัทแม่ที่ต้องการขยายฐานลูกค้าในระดับกลางให้มากขึ้น รวมทั้งการนำเข้าแบรนด์ใหม่อย่าง Bemberg นาฬิกาข้อมือที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นนาฬิกาพกได้ อย่างไรก็ดีหากไม่มีเหตุการณ์หรือการเปลี่ยนแปลงอะไรที่รุนแรง คาดว่าทั้งปีนี้บริษัทจะมีการเติบโต 15-20%"

นายจักรกฤษณ์ กีรติโชคชัยกุล ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสบริหารสินค้า บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัดกล่าวว่า ตลาดนาฬิกาในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่ารวม 4.5 หมื่นล้านบาท มีการเติบโต 2% ในครึ่งปีแรกดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ที่ไม่มีการเติบโตเลย ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีของธุรกิจ ขณะที่ยอดขายในแผนกนาฬิกาของสยามพารากอน มียอดขายเติบโต 8% และคาดว่าจนถึงสิ้นปีจะมีการเติบโตกว่า 10% หลังจากที่พบว่า ผู้ผลิตนาฬิการะดับโลกให้ความสนใจหันมาขยายตลาดในเอเชียมากขึ้น จากเดิมที่เน้นทำตลาดในยุโรปและสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก

"เริ่มมีการผลิตนาฬิกาที่ตอบรับคนเอเชียมากขึ้น ขณะที่ผู้นำเข้าเองก็ต้องกระตุ้นตลาดด้วยการนำเข้าคอลเลกชันใหม่ ให้มีความหลากหลายทั้งสตีล , ไทเทเนี่ยม รวมถึงสมาร์ท วอทช์ ฯลฯ เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นเดสติเนชันของนาฬิกา ทั้งนี้การที่ตลาดนาฬิกาเมืองไทยจะเติบโตได้ เกิดจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในระดับกลาง-บนที่ยังเติบโต ไม่ลดลง และการนำเข้าคอลเลกชันใหม่ๆ ที่จะช่วยให้นักสะสมเลือกซื้อได้"

สำหรับตลาดนาฬิกาเมืองไทยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ นาฬิการะดับไฮเอนด์และลักชัวรี 35% มิดเอนด์ 35% และนาฬิกาแฟชั่นและเทรนด์ 30% โดยตลาดมิดเอนด์เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตสูงสุด 15% เพราะมีความหลากหลายของแบรนด์ รุ่น และราคา รองลงมาได้แก่ไฮเอนด์และลักชัวรี ส่วนนาฬิกาแฟชั่นมีการเติบโตราว 5%

นางสาวชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการ สายงานกิจกรรมการตลาดและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทจัดงานสยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2016 ขึ้นระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม - 15 สิงหาคมนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "The Icon of Timepieces" โดยใช้งบประมาณกว่า 40 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดเชิงรุกและส่งเสริมการขายเจาะตรงกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ทั้งคนไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยนำแบรนด์นาฬิกาชั้นนำกว่า 180 แบรนด์จำนวนกว่า 3 หมื่นเรือน รวมมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาทมาจำหน่าย โดยไฮไลต์จะเป็นการผนึกร่วมกับพันธมิตรจัดโปรโมชั่นลดสูงสุด 50% พร้อมส่วนลดเพิ่มจากบัตรเครดิต อี-เวาเชอร์ และอื่นๆ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าที่ซื้อภายในงานได้รับความคุ้มค่ากว่าการซื้อจากต่างประเทศ โดยการจัดงานครั้งนี้คาดว่าจะมีเงินสะพัดในงานกว่า 350 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีเป็นที่รับรู้กันว่า ในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปีมีการจัด 2 อีเวนต์นาฬิกาหรู ซึ่งนอกจากงานสยามพารากอน วอทช์ เอ็กซ์โป 2016 แล้วยังมีงานเซ็นทรัล อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2016 ซึ่งปีนี้จะมีงานพรีเซลขึ้นระหว่างวันที่ 8 – 22 สิงหาคม และขายจริงวันที่ 23 สิงหาคม – 25 กันยายน ณ อีเว้นท์ ฮอลล์ เซ็นทรัล ชิดลม โดยแต่ละแบรนด์ต่างนำคอลเลกชันใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาเป็นไฮไลต์ในงาน เพื่อกระตุ้นนักช็อปทั้งกลุ่มนักสะสม และลูกค้าทั่วไป

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,178 วันที่ 28 - 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2559