“ของขาด-ราคาขยับขึ้น”ฉุดสมาร์ทโฟนไตรมาส 3 ร่วง 2.2%

08 ธ.ค. 2564 | 08:32 น.

ไอดีซี เผยตัวเลขตลาดสมาร์ทโฟนไตรมาส 3 หดตัว 2.2% หลายแบรนด์ประสบปัญหาสินค้าขาดตลาด-ราคาขึ้น รวมถึงล็อคดาวน์ทำช่องทางจำหน่ายหยุดชะงัก

ข้อมูลของ International Data Corporation (IDC) Quarterly Mobile PhoneTracker, ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนไทยอยู่ที่ 4.3 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ 3 ลดลง 2.2% ปีต่อปี เนื่องจากหลายแบรนด์ประสบปัญหาในการตอบสนองความต้องการท่ามกลางความท้าทายอย่างต่อเนื่องจากด้านอุปทานและการหยุดชะงักของช่องทางการขายเนื่องจากการล็อกดาวน์ยังคงฉุดรั้งตลาดไทยไว้

“ของขาด-ราคาขยับขึ้น”ฉุดสมาร์ทโฟนไตรมาส 3 ร่วง 2.2%

ความต้องการสมาร์ทโฟนยังคงแข็งแกร่งแต่อุปทานถูกจำกัดเมื่อเงินบาทอ่อนค่าและราคาของส่วนประกอบสมาร์ทโฟนสูงขึ้น หลายแบรนด์จำเป็นต้องขึ้นราคาขายและออกรุ่นใหม่ในราคาที่สูงขึ้น

 

 

อย่างไรก็ตามสัดส่วนของสมาร์ทโฟนกลุ่มพรีเมียมยังคงไม่เปลี่ยนแปลงโดยมีอุปสงค์และอุปทานอยู่ในระดับที่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับ iPhone 11   สำหรับสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าหนึ่งในสี่ของตลาดทั้งหมดเนื่องจากมีการเปิดตัวสินค้าใหม่มากมาย เช่น OPPO Reno 6, Samsung Galaxy A52s และ เป็นครั้งแรกที่ AIS เปิดตัวมือถือ 5G ราคาประหยัดของตัวเองอย่าง Ruio R1

 

IDC คาดว่าสัดส่วนของสมาร์ทโฟน 5G จะทะลุ 30% ภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G ในช่วงราคาที่จับต้องได้มากขึ้น

 

นายธีริทธิ์ เปาวัลย์ นักวิเคราะห์ตลาด ไอดีซี ประเทศไทย กล่าวว่า"ผลกระทบจากห่วงโซ่อุปทานและอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ผู้ขายไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขึ้นราคาขายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ผู้บริโภคต้องซื้อสมาร์ทโฟนในราคาที่สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

ภาพรวมของแบรนด์ 5 อันดับแรก ซัมซุง กลับมาเป็นอันดับหนึ่งด้วยรุ่น A เช่น Galaxy A12 และ Galaxy A02 เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยม นอกจากนี้อุปทานของซัมซุงฟื้นตัวอย่างมากหลังจากการขาดแคลนในไตรมาสที่ 2 ซัมซุงยังเปิดตัว Galaxy Flip3 และ Galaxy Fold3 เรือธงใหม่พร้อมข้อเสนอมากมาย เช่น เก่าแลกใหม่, Gift Set อุปกรณ์แต่งเคส และของขวัญพิเศษ

 

ออปโป้ ไตรมาสนี้เน้นไปที่สมาร์ทโฟน 5G โดยนาเสนอสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่อย่าง Reno 6-series และ A74 5G อย่างไรก็ตาม ตัวขับเคลื่อนหลักยังคงเป็น A15 ราคาประหยัด แม้ว่ารุ่นระดับล่างจะต้องเผชิญกับอุปทานที่ตึงตัวก็ตาม

 

วีโว่ ได้เปิดตัวรุ่นใหม่มากมาย เช่น Y33s และ Y21 แต่การจัดส่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากข้อจากัดด้านอุปทาน รุ่น Y ยังคงเป็นรุ่นที่ทายอดขายได้ปริมาณมากที่สุดโดยมี Y12A มีส่วนแบ่งสูงสุด

 

เสียวหมี่ ได้รับความนิยมในรุ่นราคาประหยัดและแบรนด์ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่องทางออฟไลน์ การเปิดตัวใหม่ เช่น Mi 11T ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาด อย่างไรก็ตามเสียวหมี่ยังประสบปัญหาการขาดแคลนอุปทานอย่างรุนแรง

 

แอปเปิ้ล เป็นไตรมาส “ขาลง” ที่ดีที่สุด ความต้องการยังคงแข็งแกร่งและไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากแนวโน้มตลาดที่ขาดแคลนอุปทานและส่วนใหญ่ได้รับความนิยมจาก iPhone 11 โดยเฉพาะช่องทางโทรคมนาคม

 

“ด้วยความขาดแคลนด้านอุปทาน แคมเปญจำหน่ายสมาร์ทโฟนคงไม่ลดราคารุนแรงมากในช่วงเทศกาลวันหยุดที่กาลังจะมาถึง นอกจากนี้เราคาดว่าข้อจำกัดด้านอุปทานจะยังคงดำเนินต่อไปในช่วงครึ่งแรกของปี 2565”