มัดรวมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ “สเปค-ราคา” วางขาย ต.ค.นี้

30 ก.ย. 2564 | 12:02 น.

ช่วงโค้งสุดท้ายของปี ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน แห่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด การประกาศคลายล็อกดาวน์ กลับมาเดินห้างได้ยิ่งทำให้บรรยากาศการขายกลับมาคึกคัก ฐานเศรษฐกิจ จึงได้รวบรวมสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังที่มีกำหนดวางขายเดือนตุลาคม

แบรนด์ดัง Apple ประกาศเปิดตัว iPhone ออกสู่ตลาดทั้งหมด 4 รุ่น ประกอบด้วย iPhone 13 Pro, iPhone 13 Pro Max, iPhone 13 และ iPhone 13 mini โดยเปิดให้ผู้บริโภคสั่งซื้อล่วงหน้า ผ่าน โอปอเรเตอร์ และตัวแทนจำหน่าย ร้านไอสตูดิโอ ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2664 ก่อนวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 ตุลาคม 2564 โดย iPhone 13 และ iPhone 13 mini วางจำหน่ายในสีชมพู, นํ้าเงิน, มิดไนท์, สตาร์ไลท์ และรุ่น (PRODUCT) RED ความจุเริ่มต้นใหม่ที่ 128GB และมีรุ่นความจุ 256GB และ 512GB โดย iPhone 13 ราคาเริ่มต้น 29,900 บาท และ iPhone 13 mini ราคาเริ่มต้น 25,900 บาท ส่วน iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max วางจำหน่ายในสีกราไฟต์, ทอง, เงิน และเซียร์ร่าบลู ความจุ 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB โดย iPhone 13 Pro ราคาเริ่มต้น 38,900 บาท และ iPhone 13 Pro Max ราคาเริ่มต้น 42,900 บาท

มัดรวมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ “สเปค-ราคา” วางขาย ต.ค.นี้

ขณะที่ ซัมซุง เปิดให้จองรอบ 2  สมาร์ทโฟนจอพับได้ Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน โดยคาดว่าจะสามารถส่งมอบสินค้าล็อตแรกได้ในวันที่ 8 ตุลาคมนี้  โดยกระแสตอบรับสมาร์ทโฟนจอพับของซัมซุงค่อนข้างดี โดยมียอดจองในไทยสูงกว่า Galaxy Fold รุ่นก่อนหน้านี้ 8 เท่า โดยเหตุผลที่ทำให้ Galaxy Z Fold3 | Flip3 5G ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค คือความโดดเด่นของนวัตกรรมที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับสมาร์ทโฟน  ขณะที่การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เกิดจากการนำ ‘ความคิดเห็นของผู้บริโภค’ ทำให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด ทั้งในด้านการทำงานความบันเทิง การรับชมคอนเทนต์ การเล่นเกม ผ่าน Galaxy Z Fold3 5G และด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นทำให้ ของ Galaxy Z Flip3 5G ได้บ่งบอกตัวตนและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้

มัดรวมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ “สเปค-ราคา” วางขาย ต.ค.นี้

 “เสียวหมี่” ได้เสริมทัพสินค้าสมาร์ทโฟนแฟล็กชิปโมเดลตระกูล Xiaomi 11 Series ที่มีด้วยกัน 3 รุ่น คือ Xiaomi 11T Pro, Xiaomi 11T ที่มุ่งชูขุมพลัง “Cinemagic” ออกแบบมาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ใช้งานในการสร้างสรรค์คอนเท้นต์ หรือคอนเท้นต์ครีเอเตอร์  

Xiaomi 11T Pro  มาพร้อมกับชิปเซ็ตระดับแฟล็กชิป Qualcomm Snapdragon 888 กล้องระดับเทพถึงสามตัวเทียบชั้นกล้องโปร ประกอบด้วย กล้องหลักเลนส์ไวด์ความละเอียด 108MP, เลนส์อัลตราไวด์ 120 องศาความละเอียด 8MP, เลนส์ Telemacro ความละเอียด 5MP โหมด One-Click AI Cinema บันทึกภาพเคลื่อนไหวความละเอียดสูงถึง 8K และ HDR10+ และ Audio Zoom Xiaomi 11T Pro มีหน้าจอ AMOLED ความละเอียดระดับ FHD+ ขนาด 6.67 นิ้ว พร้อมทั้งรีเฟรชเรท 120Hz และผสานเทคโนโลยี TrueColor อีกด้วย นอกจากนี้ หน้าจอยังได้รับการรับรองด้วยคะแนน  A+ จาก DisplayMate และเคลือบด้วย Corning Gorilla Glass Victus เพื่อเสริมความทนทานอีกขั้น Xiaomi 11T Pro รองรับการแสดงผลภาพแบบ Dolby Vision เพลิดเพลินกับคอนเทนต์ที่สีสันสดคมชัด สว่างไหวและเก็บได้ครบทุกรายละเอียด Xiaomi 11T Pro ยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ด้วยลำโพงคู่ให้เสียงทุ่มนุ่มนวลระดับ SOUND BY Harman Kardon ให้เสียงกระหึ่มไม่ว่าจะเพลิดเพลินคอนเทนต์รูปแบบใด  Xiaomi 11T Pro มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh ที่รองรับเทคโนโลยีการชาร์จใหม่ล่าสุดอย่าง 120W Xiaomi HyperCharge ที่บรรจุในสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกของโลก

มัดรวมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ “สเปค-ราคา” วางขาย ต.ค.นี้

Xiaomi 11T ให้ทุกคนเข้าถึงประสบการณ์แบบ Cinemagic ได้อย่างง่ายดาย ด้วยกล้องหลังสามตัว ประกอบด้วย กล้องหลักเลนส์ไวด์ความละเอียด 108MP, เลนส์อัลตราไวด์ 120 องศาความละเอียด 8MP, เลนส์ Telemacro ความละเอียด 5MP และยังมีโหมด One-Click AI Cinema และ Audio Zoom ใช้ AMOLED ความละเอียดระดับ HDR10+ ขนาด 6.67 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz เพลิดเพลินกับการใช้งานได้ตลอดวัน ด้วยขุมพลังจากชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1200 และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5000mAh ที่มาพร้อมกับเทอร์โบชาร์จ 67W

Xiaomi 11T Pro และ Xiaomi 11T มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเทา Meteorite Gray, สีขาว Moonlight White และสีน้ำเงิน Celestial Blue วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคมเป็นต้นไป

Xiaomi 11T Pro มีให้เลือก 3 ขนาด

•            รุ่นความจุ 12GB+256GB: ราคา 20,990 บาท วางจำหน่ายผ่าน Lazada, JD Central และ Shopee เท่านั้น

•            รุ่นความจุ 8GB+256GB: ราคา 18,990 บาท วางจำหน่ายที่ Xiaomi Store ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์

•            รุ่นความจุ 8GB+128GB: ราคา 16,990 บาท วางจำหน่ายผ่าน Lazada, JD Central และ Shopee เท่านั้น

Xiaomi 11T มีให้เลือก 2 ขนาด

•            รุ่นความจุ 8GB+256GB: ราคา 14,990 บาท วางจำหน่ายที่ Xiaomi Store ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์

•            รุ่นความจุ 8GB+128GB: ราคา 13,990 บาท วางจำหน่ายผ่าน Lazada, JD Central และ Shopee เท่านั้น

ส่วน Xiaomi 11 Lite 5G NE: สมาร์ทโฟนประสิทธิภาพระดับแฟล็กชิปในดีไซน์บางเฉียบและน้ำหนักเบา หน้าจอ AMOLED DotDisplay 6.55” อัตรารีเฟรชเรท 90Hz และอัตรา Touch Sampling Rate 240Hz รองรับ Dolby Vision® พร้อมยังรองรับ DCI-P3 และ 10-bit TrueColor ที่มอบประสบการณ์การรับชมความบันเทิงได้อย่างเสมือนจริงที่สุด มาพร้อมกล้องหลัก 3 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 64MP เลนส์อัลตราไวด์ 8MP และเลนส์เทเลมาโคร 5MP นอกจากนี้ Xiaomi 11 Lite 5G NE ยังมาพร้อมชิปเซ็ตตัวแรงอย่าง Qualcomm Snapdragon 778G รองรับ 5G Dual Sim พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 4250mAh และรองรับระบบชาร์จไว 33W

Xiaomi 11 Lite 5G NE วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2564 โดยมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ White Truffle Black, สีฟ้า Bubblegum Blue และสีชมพู Peach Pink และสีใหม่ล่าสุด สีขาว Snowflake White

•             รุ่นความจุ 8GB+256GB: ราคา 13,990 บาท วางจำหน่ายผ่าน Lazada, JD Central และ Shopee เท่านั้น

•             รุ่นความจุ 8GB+128GB: ราคา 11,990 บาท วางจำหน่ายที่ Xiaomi Store ร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์

•             รุ่นความจุ 6GB+128GB: ราคา 10,990 บาท วางจำหน่ายผ่าน Lazada, JD Central และ Shopee เท่านั้น

ส่วน vivo เปิดตัว vivo Y33s สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด สเปกครบครัน มาพร้อมความแรงให้ใช้งานอย่างลื่นไหลด้วย 8GB + 4GB Extended RAM และหน้าจอใหญ่เต็มตาขนาด 6.58 นิ้วกล้องหลังความละเอียด 50MP จัดเรียงแบบ Dual Tone Step เอกลักษณ์เฉพาะตัวของ vivo ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานตลอดทั้งวันด้วยแบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 18 วัตต์ ดีไซน์ตัวเครื่องบางเพียง 8 มม. พกพาสะดวก พร้อมตัวเลือก 2 สีใหม่ บ่งบอกสไตล์ได้ชัดเจน ทั้ง Mirror Black และ Midday Dream ตอบโจทย์ทุกการใช้งานพร้อมให้ทุกคนสนุกได้แบบ That’s Y ในราคา เพียง 7,999 บาท

มัดรวมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ “สเปค-ราคา” วางขาย ต.ค.นี้

เอชเอ็มดี โกลบอล เจ้าของลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายโทรศัพท์ สมาร์ทโฟน ฟีเจอร์โฟน และอุปกรณ์เสริมแบรนด์โนเกีย (Nokia) เปิดตัว Nokia G50 สมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรกจาก Nokia ที่รองรับทุกความถี่ 5G ในประเทศไทย ไม่ต้องรอ ไม่ต้องจองล่วงหน้า พร้อมขายทั่วประเทศ 5 ตุลาคมนี้ กับสมาร์ทโฟน 5G ใหม่ ชิปเซ็ต Snapdragon 480 5G จาก Qualcomm รองรับเครือข่าย 5G หน้าจอ HD+ ขนาด 6.82 นิ้ว พร้อม Android เวอร์ชั่นล่าสุด ที่พร้อมรองรับ Android 12 และ Android เวอร์ชั่นใหม่ในอนาคต รองรับทุกการใช้งานของ Google Mobile Service รุกขยายฐานลูกค้าเจเนอเรชั่นใหม่ และกลุ่มคนรักเทคโนโลยี พร้อมเพิ่มช่องทางขายโค้งสุดท้ายของปี โดยมี YAS จัดหนักจับมือ ทรู 5G เครือข่ายอัจฉริยะที่เร็วกว่า แรงกว่า รายแรก รายเดียว ที่ครบสุดทุกย่านความถี่ มอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับลูกค้าทรูเท่านั้น เมื่อซื้อ Nokia G50 สมาร์ทโฟน 5G ในราคาที่เข้าถึงได้ ปลดล็อกผู้บริโภคเข้าถึง 5G เพิ่มมากขึ้น ลุยบุกตลาดจัดหนักด้วยแคมเปญจ่ายราคาเครื่องเบา ๆ เริ่มต้นเพียง 1,590 บาท เมื่อสมัครแพ็กเกจ 5G Ultra Max Speed Plus 1,399 บาท นาน 12 เดือนพร้อมรับสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย ตอบโจทย์การใช้จ่ายที่ต้องการความยืดหยุ่น ชูจุดแข็งสินค้าคุณภาพดี ราคาจับต้องได้ ภายใต้แนวคิด Love it. Trust it. Keep it. ที่ทรูช็อป ทุกสาขา และช่องทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

มัดรวมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ “สเปค-ราคา” วางขาย ต.ค.นี้

เปิดท้ายด้วย   OPPO ประกาศเปิดตัวพร้อมวางจำหน่าย OPPO A54 รุ่นอัปเกรด RAM 6GB ROM 128GB โดยเพิ่มขนาด RAM มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด มาในราคา 7,499 บาท พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2564 ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขาและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

มัดรวมสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ “สเปค-ราคา” วางขาย ต.ค.นี้

โดย OPPO A54 รุ่น RAM 6GB ROM 128GB สมาร์ทโฟนราคาเบาๆ รุ่นอัปเกรดจาก OPPO A54 RAM 4GB ที่จะมาตอบโจทย์ทุกเอ็นเตอร์เทนเมนท์ได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด ด้วย RAM ที่มากขึ้นถึง 6GB และให้คุณเก็บได้ทุกความสนุกด้วยพื้นที่จัดเก็บขนาดใหญ่ถึง 128GB อีกทั้งยังพร้อมสนุกได้ตลอดทั้งวันด้วยแบตเตอรี่ถึง 5,000 mAh และ ชาร์จไว 18W Fast charge รวมถึงสามารถกันน้ำในระดับ IPX4 ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยกล้องหน้า AI ที่มีความละเอียดมากถึง 16MP ให้คุณเซลฟี่ได้สนุกทุกช็อต พร้อมกล้องหลังถึง 3 ตัวความละเอียดสูงสุด 13MP อีกทั้งยังให้คุณจับถือได้อย่างถนัดมือด้วยดีไซน์บางเบาที่มีตัวเครื่องโค้งแบบ 3 มิติ และหน้าจอแบบ Punch-hole display ขนาด 6.51 นิ้ว ให้คุณสนุกไปกับการรับชมวิดีโอหรือเล่นเกมได้อย่างเต็มตา พร้อมสามารถปลด ล็อกได้อย่างสะดวกและปลอดภัยด้วยการปลดล็อกด้วยใบหน้าและการสแกนลายนิ้วมือด้านข้าง สำหรับดีไซน์ฝาหลังได้รับการออกแบบในระดับไฮเอนด์ด้วยการใช้สเปรย์ไล่ระดับสีที่มีการชุบด้วยการใช้ไฟฟ้าเป็นตัวนำ โดยมีให้เลือก 2 สีคือ น้ำเงิน Starry Blue และสีดำ Crystal Black