IBMชูไฮบริดคลาวด์-AI เร่งทรานส์ฟอร์มองค์กร

16 พ.ค. 2564 | 04:00 น.

ไอบีเอ็มประกาศความก้าวหน้าศักยภาพไฮบริดคลาวด์และเอไอ ช่วยองค์กรเร่งเครื่องดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ในงานใหญ่ประจำปี Think 2021

นายอาร์วินด์ กฤษณะ ประธานและซีอีโอของไอบีเอ็ม เปิดเผยว่าปีนี้และปีที่แล้วเป็นช่วงเวลาที่โลกก้าวเข้าสู่ศตวรรษแห่งดิจิทัลอย่างเต็มตัว ในศตวรรษที่ 21 นี้ มีการใช้ไฮบริดคลาวด์และผสานเอไอเข้ากับซอฟต์แวร์และระบบต่างๆ ในแบบเดียวกับที่ต่อไฟฟ้าเข้าไปยังโรงงานและเครื่องจักรในศตวรรษที่ผ่านมา และสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ อนาคตข้างหน้าจะต้องถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของความร่วมมือเชิงลึกในมุมอุตสาหกรรม ซึ่งไม่มีใครที่จะเข้าใจเรื่องนี้ได้ดีกว่าไอบีเอ็ม และนี่คือหนึ่งในเหตุผลที่ไอบีเอ็มเร่งการลงทุนในอิโคซิสเต็มพาร์ทเนอร์ เต็มที่ นอกจากนี้ ในงาน Think 2021 ไอบีเอ็มยังได้เปิดเผยถึงนวัตกรรมไฮบริดคลาวด์และเอไอล่าสุด ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่เป็นพื้นฐานของสถาปัตยกรรมทางไอทีรูปแบบใหม่ของธุรกิจต่อไป”

ไอบีเอ็มทุ่มเทกับไฮบริดคลาวด์และเอไอเต็มที่เพราะทราบดีว่าธุรกิจต่างๆ ต้องการแนวทางที่ชัดเจนและเชื่อถือได้ในก้าวย่างของการปรับระบบ mission-critical ต่างๆ ให้มีความทันสมัย ผลการศึกษาล่าสุดของไอบีเอ็ม เกี่ยวกับการนำเอไอเข้ามาใช้ในธุรกิจ ชี้ให้เห็นว่าความจำเป็นในการผสานเอไอเข้าสู่กระบวนการทางธุรกิจต่างๆ ถูกเร่งให้กลายเป็นความจำเป็นเร่งด่วนในช่วงของการแพร่ระบาด โดยผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีที่สำรวจ 43% ระบุว่าองค์กรของตนได้เร่งการนำเอไอมาใช้ ขณะที่เกือบครึ่งระบุว่าเหตุผลหลักในการตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการด้านเอไอ คือการเลือกจากความสามารถในการทำออโตเมชันกระบวนการต่างๆ และนี่คือสาเหตุที่ไอบีเอ็มลงทุนเต็มที่ในการสร้างความสามารถที่ครอบคลุมและทรงพลังให้กับเอไอสำหรับธุรกิจ

 

อาร์วินด์ กฤษณะ

 

 

“วันนี้ไอบีเอ็มช่วยลูกค้าหลายพันรายในทุกอุตสาหกรรมในการทรานส์ฟอร์มธุรกิจด้วยพลังของแพลตฟอร์มไฮบริดคลาวด์และเอไอ ด้วยนวัตกรรมที่ได้รับการออกแบบสำหรับธุรกิจเพื่อรองรับก้าวต่อไปของเส้นทางดิจิทัล”

เอไอจะเข้ามาช่วยให้การเข้าถึง รวมกลุ่ม และบริหารจัดการข้อมูล ทำจากที่ไหนก็ได้โดยอัตโนมัติ ผ่าน Cloud Pak for Data ความสามารถใหม่ของ Cloud Pak for Data ที่ใช้เอไอเข้ามาช่วยให้ลูกค้าได้รับคำตอบจากคำถามกว่าเดิมถึงแปดเท่า ด้วยค่าใช้จ่ายเพียงเกือบครึ่งเมื่อเทียบกับโซลูชัน data warehouse ที่นำมาเปรียบเทียบ โดย AutoSQL (Structured Query Language) นี้ จะช่วยออโตเมทการเข้าถึง ผนวกรวม และบริหารจัดการข้อมูลของลูกค้า โดยไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายข้อมูล ไม่ว่าข้อมูลจะถูกจัดเก็บอยู่ที่ใด ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาสำคัญที่ลูกค้ากำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้ เมื่อต้องเลือกข้อมูลสำหรับเอไอ ขณะที่ต้องลดค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายข้อมูลที่ค่อนข้างสูงไปพร้อมๆ กัน ช่วยให้ลูกค้าได้รับข้อมูลเชิงลึกที่มีความถูกต้องขึ้นจากการคาดการณ์ด้วยเอไอ โดย AutoSQLที่เปิดตัวในครั้งนี้ จะมาพร้อมกับ IBM Cloud Pak for Data ที่มีระบบ data warehouse ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดในตลาด

 

Watson Orchestrate ช่วยออโตเมทงานต่างๆ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: Watson Orchestrate เป็นหนึ่งในความสามารถใหม่ด้านเอไอที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับทีมต่างๆ ในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นทีมขาย ทีมทรัพยากรบุคคล ทีมปฏิบัติการ ฯลฯ โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมีทักษะด้านไอที ทีมต่างๆ ในองค์กรสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ผ่านอีเมลหรือแชทแอพอย่าง Slack โดยระบบยังสามารถเชื่อมต่อกับแอพธุรกิจอย่าง Salesforce, SAP และ Workday ได้ Watson Orchestrate ใช้เอนจิ้นเอไอที่ทรงพลังในการเลือกและจัดลำดับชุดทักษะที่ต้องใช้ในงานแต่ละชนิดโดยอัตโนมัติ พร้อมเชื่อมต่อกับแอพ เครื่องมือ ข้อมูล หรือข้อมูลย้อนหลังต่างๆ ไปด้วยในขณะเดียวกัน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานที่เป็นกิจวัตรซํ้าๆ ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการนัดประชุม การอนุมัติ หรือแม้แต่งานที่สำคัญอย่างการเตรียมโครงการนำเสนอหรือแผนธุรกิจต่างๆ เป็นการช่วยประหยัดเวลาในการทำงานต่างๆ Watson Orchestrate ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยศูนย์วิจัยไอบีเอ็ม และเปิดให้ใช้บริการได้แล้วผ่าน IBM Automation Cloud  Pak ก่อนที่จะเปิดให้ใช้ในวงกว้างต่อไปภายในปีนี้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 5 เรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ Watson Orchestrate

 

ไอบีเอ็มยังได้เปิดตัว Maximo Mobile แพลตฟอร์มโมบายล์ที่เปิดใช้งานได้ง่ายๆ โดยมีโซลูชันบริหารจัดการทรัพย์สินชั้นนำอย่าง Maximo ของไอบีเอ็มเป็นหัวใจหลัก Maximo Mobile ได้รับการออกแบบมาสำหรับช่างเทคนิคที่ต้องทำงานในพื้นที่จริงอย่างถนน สะพาน ไลน์การผลิต โรงไฟฟ้า โรงกลั่นนํ้ามัน เพื่อซ่อมแซมอุปกรณ์หรือทรัพย์สินต่างๆ โดยใช้ Watson AI ร่วมกับข้อมูลองค์กรเชิงลึก ผนวกความสามารถอันทรงพลังของเอไอ เวิร์คโฟลว์อัจฉริยะ ระบบช่วยเหลือระยะไกล และดิจิทัลทวินเข้าด้วยกัน ช่วยให้ช่างสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ที่สั่งสมมานานนับทศวรรษได้ง่ายๆ ทันที นำสู่การปฏิบัติงานที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3,679 หน้า 16 วันที่ 16 - 19 พฤษภาคม 2564