ส่องทิศทางราคาพลังงานปี 2566 น้ำมันยังแพงหรือไม่ ค่าไฟจ่ายเท่าไหร่

03 ม.ค. 2566 | 01:20 น.

ส่องทิศทางราคาพลังงานปี 2566 น้ำมันยังแพงหรือไม่ ค่าไฟจ่ายเท่าไหร่ที่นี่มีคำตอบ ฐานเศรษฐกิจรวบรวมคาดการณ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้ให้แล้ว

ราคาพลังงานเป็นหนึ่งปัจจัยที่ต้องจับตา เนื่องจากมีผลต่อค่าครองชีพของประชาชนทุกคน เพราะเป็นต้นทุนในการผลิตแทบทุกภาคอุตสาหกรรม

 

ส่วนทิศทางราคาพลังงานในปี 2566 จะเป็นอย่างไร "ฐานเศรษฐกิจ" มีคำตอบ

 

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยอยู่ในกรอบ 85-95 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยที่สถานการณ์พลังงานของโลกยังคงอยู่ท่ามกลางความผันผวน จากสภาพเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวหลังโควิด-19 (Covid-19) คลี่คลาย ทำให้ความต้องการพลังงานเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่นำไปสู่วิกฤตพลังงานในหลายประเทศ

 

อย่างไรก็ดี คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 แต่กำลังการผลิตน้ำมันจากรัสเซียอาจหายไปจากตลาด หลังยุโรปเริ่มการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันรัสเซียเต็มรูปแบบในปลายปี 2565 รวมทั้งความร่วมมือของกลุ่มโอเปก พลัส ในการพยุงราคาน้ำมัน

 

"จึงเป็นที่น่าจับตาว่าผู้ผลิตรายอื่นๆ จะสามารถเพิ่มการผลิต เพื่อชดเชยอุปทานที่ขาดหายไปจากรัสเซียได้หรือไม่ รวมถึงประเด็นการยกเลิกคว่ำบาตรต่ออิหร่าน และเวเนซุเอลา ที่อาจเป็น Game Changer ในการเพิ่มอุปทานน้ำมันดิบเข้ามาในตลาด จะส่งผลต่อราคาน้ำมันตลาดโลกไปในทิศทางใด"

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ระบุว่า แนวโน้มความต้องการใช้พลังงานขั้นต้นของประเทศในปี 2566 จะอยู่ที่ 2,111 พันบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้น 2.7% แบ่งเป็นการใช้น้ำมันที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.2% ก๊าซธรรมชาติคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1.8% การใช้ถ่านหิน/ลิกไนต์ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.1% และการใช้ไฟฟ้าพลังน้ำและไฟฟ้านำเข้า คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4.4%

 

โดยเฉพาะความต้องการใช้ไฟฟ้าในระบบสูงสุด (พีก) ปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่ 33,842 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้น 2% จากปี 2565 ซึ่งพีกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2565 เวลา 14.30 น. อยู่ที่ 33,177 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 6.9% และมองว่ามีแนวโน้มจะสูงกว่าปี 2562 ช่วงก่อนเกิดโควิด-19

 

ส่องทิศทางราคาพลังงานปี 2566

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความต้องการเดินทางที่มีแนวโน้มกลับมาเป็นปกติมากขึ้น ทั้งการเดินทางในประเทศและการเดินทางระหว่างประเทศ รวมทั้งการขยายตัวของการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่ยังคงต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงอย่างใกล้ชิด

 

นายวัฒนพงษ์ กล่าวอีกว่า สนพ.ประเมินแนวโน้มราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกยังคงผันผวน ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น ทำให้ปี 2566 คนไทยยังคงต้องจ่ายค่าไฟฟ้าในอัตราที่แพงต่อไปอีก 2 ปี ในปี 2566-2567 แต่จะไม่สูงเกินกว่า 5 บาทต่อหน่วย หลังจากนั้นเชื่อว่าต้นทุนค่าไฟจะค่อยๆ ทยอยปรับลดลง หลังจากมีกำลังการผลิตก๊าซในอ่าวไทยเข้ามาเพิ่มเติม

 

ทั้งนี้ ราคาตลาดโลกยังมีความผันผวนสูง กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจำเป็นต้องเก็บเงินเข้ากองทุนเพื่อลดภาระหนี้ก่อน และเห็นว่ายังมีมาตรการลดหย่อนภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่รัฐลดลงอยู่แล้ว 5 บาทต่อลิตรไปจนถึงวันที่ 20 ม.ค. 2566 เพื่อพยุงราคาขายปลีกไม่ให้เกิน 35 บาทต่อลิตร ทำให้กองทุนเริ่มมีเงินไหลเข้าจากน้ำมันทุกประเภท

ในช่วงที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ทยอยเก็บเงินนำส่งเข้ากองทุนฯ จากน้ำมันดีเซล 5.82 บาทต่อลิตร กลุ่มเบนซินในส่วนของแก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ 91 เก็บได้ 2.30 บาทต่อลิตร E20 และ E85 เก็บได้ 51 สตางค์ต่อลิตร

 

“กบน.จะติดตามราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิด หากราคามีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง อาจจะมีการพิจารณาลดเพดานราคาขายปลีกดีเซลลงมาได้บ้างจากปัจจุบันอยู่ที่ 34.94 บาทต่อลิตร ไม่เกิน 35 บาทต่อลิตรตามนโยบายของรัฐบาล”


สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มองว่าราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยในปี 2566 จะอยู่ในช่วง 85-95 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลงจากปี 2565 ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 98.5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ตามแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ที่จะส่งผลให้ความต้องการน้ำมันดิบลดลง

 

ส่องทิศทางราคาพลังงานปี 2566

 

หลังผ่านจุดสูงสุดไปเมื่อช่วงกลางปี 2565 ที่ราคาน้ำมันดิบขึ้นไปกว่า 120 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และราคาดีเซลสำเร็จรูปประเทศสิงคโปร์ที่ทะลุแนวต้านไปเฉียด 180 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาขายปลีกแก๊สโซฮอล์ 91 ในประเทศพุ่งขึ้นไปสูงสุดที่ 44.88 บาทต่อลิตร และแก๊สโซฮอล์ 95 สูงสุดที่ 45.15 บาทต่อลิตร ถึง 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 14 และ 29 มิ.ย. 2565

 

สอดคล้องกับการประมาณการโดยสำนักบริหารสารสนเทศพลังงานสหรัฐ (US Energy Information Administration : EIA) ก่อนหน้านี้ที่คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปี 2566 จะเพิ่มขึ้น 0.8% ซึ่งเป็นการปรับลดลงจากการเพิ่มขึ้น 2%

 

ส่วนค่าไฟนั้น  สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ได้มีการประกาศค่าไฟประจำปี 2566 งวด ม.ค.-เม.ย. ล่าสุด โดยระบุว่า 

 

  • ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ตรึงไว้ที่ราคาเดิมเท่างวดเก่า 4.72 บาทต่อหน่วย

 

  • ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น  ได้แก่ กิจการขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ โรงแรม กิจการไม่แสวงหากำไร สูบน้ำเพื่อการเกษตร ไฟฟ้าชั่วคราว(ระหว่าง ก่อสร้าง) คือ อุตสาหกรรม การค้า การเกษตร การบริการ ทั้งหมดจะมีค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่อัตรา 5.33 บาทต่อหน่วย