เรนวูด ปาร์ค ผุดอสังหาริมทรัพย์ระดับ Luxury แลนด์มาร์คแห่งใหม่ย่านปทุมธานี

01 ก.ค. 2565 | 15:10 น.

เรนวูด ปาร์ค ผุดอสังหาริมทรัพย์ระดับ Luxury แลนด์มาร์คแห่งใหม่ย่านปทุมธานี บนเนื้อที่กว่า 2 พันไร่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

นางสาวพิชญา รักตพงศ์ไพศาล ผู้จัดการโครงการเรนวูด ปาร์ค เปิดเผยว่า ได้มีการ่วมทุนระหว่าง รักตพงศ์ไพศาล และ รวยรุ่งเรือง เพื่อดำเนินโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบคอมมูนิตี้ระดับ Luxury ภายใต้ชื่อ เรนวูด ปาร์ค คลอง 11 ลำลูกกา  โดยเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้น ในแผนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบคอมมูนิตี้ ให้บริการแบบครบวงจร 

 

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวมีที่มาจากแนวคิดของการออกแบบโครงการ โดยสะท้อนความต้องการของผู้อยู่อาศัยในทุกช่วงวัย ท่ามกลางธรรมชาติ และความสะดวกสะบายในทุกด้านที่พร้อมให้บริการอย่างครบวงจร  ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  ซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของประเทศ

 

และสอดรับกับทิศทางของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงไป หลังจากที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดโควิด-19

สำหรับโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนเนื้อที่ 2 พันไร่ โดยเป็นที่อยู่อาศัย แบบครบวงจร ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งในโครงการได้มีการจัดโซนที่เป็นสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้เกิดความลงตัวในการใช้ชีวิต ทั้งสนามกอล์ฟขนาดมาตรฐาน โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์กีฬา บ้านพักตากอากาศ บ้านพักสำหรับผู้สูงวัย ศูนย์สุขภาพ คอมมูนิตี้มอลล์

 

และระบบสาธารณูปโภค ที่รองรับการใช้ชีวิตได้ทุกไลฟ์สไตล์ โดยการพัฒนาในเฟสแรก จะแล้วเสร็จในปลายปี 2565 และจะพัฒนาเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการในปี 2568

 

นายพริษฐ์  รักตพงศ์ไพศาล  ผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติ KIS กล่าวว่า การพัฒนาโครงการดังกล่าว ได้มุ่งเน้นการออกแบบสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันและอนาคต

 

โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่เป็นกลุ่มครอบครัว  ที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการนำระบบสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพเข้ามารองรับ  เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในโครงการ
 

สำหรับแผนนการพัฒนาโครงการ เรนวูด ปาร์ค คลอง 11 ลำลูกกา แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ระยะแรก ประกอบไปด้วยโครงการสนามกอล์ฟ 18 หลุม โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์กีฬาหรือสปอร์ตคลับ เพื่อรองรับการเปิดจองพื้นที่ของกลุ่มลูกค้า โดยเป็นการออกแบบที่ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟสไตล์ของการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน มีความโดดเด่นในด้านความสมบูรณ์แบบของการใช้ชีวิตแบบ One Stop Service เพื่อคนทุกช่วงวัย

 

การพัฒนาในระยะที่  2 จะเป็นการก่อสร้างในส่วนของบ้านพักสำหรับผู้สูงอายุ จำนวน  621  ยูนิต แบ่งเป็น 5 โซน เพื่อรองรับกับสังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย  และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งเป็นบ้านพักที่มีการดูแลให้บริการ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกในทุกด้านที่ครบครัน  ควบคู่ไปกับการพัฒนา คอมมูนิตี้ มอลล์ 

 

ส่วนแผนระยะที่ 3 เป็นการก่อสร้างโครงการบ้านพักอาศัยขนาดใหญ่บนพื้นที่รอบสนามกอล์ฟทั้งนี้การออกแบบโครงการ เน้นการออกแบบบ้าน และพื้นที่ของโครงการให้เชื่อมโยงกับธรรมชาติให้ได้มากที่สุด