ทุนฮ่องกง ลุยเปิดคอนโดฯ 9 พันล.

23 ก.ค. 2563 | 06:17 น.

ริสแลนด์ ทุนอสังหาฯฮ่องกง ส่งบิ๊กโปรเจกต์ลุยตลาดคอนโดฯ ครึ่งปีหลัง เปิดตัวคอนโด “สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64” มูลค่าโครงการกว่า 9,000 ล้านบาท หวังช่วงชิงโอกาส ดีเวลลอปเปอร์ไทยชะลอลงทุนใหม่ หลังเชื่อมั่นดีมานด์คนไทย-ต่างชาติ ยังมีต่อเนื่อง เตรียมดึงเครือใหญ่ทั่วโลกเพิ่มยอดขาย

ขณะที่ ดีเวลลอปเปอร์ไทยถอยหลบ ภาวะเฟ้อของซัพพลายที่ยังมากเกินไป และระแวดระวังถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงหลังจากนี้ กลับเห็นภาพการลุยต่อของกลุ่มทุนต่างชาติขนาดใหญ่ อย่าง " ริสแลนด์  " ซึ่งเป็นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกง โดยล่าสุด ยังคงประกาศเดินหน้าพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ บนเนื้อที่ 22 ไร่ ทำเลสุขุมวิทตอนปลาย ผ่านโครงการมิกซ์ยูส  "สกายไรซ์ อเวนิว สุขุมวิท 64 " จำนวนห้องชุดประมาณ 3,000 หน่วย มูลค่าโครงการรวมกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่สุดของริสแลนด์ ประเทศไทย โดยเป็นคอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ จำนวน 4 อาคาร (เฟสที่ 1) โดยมี อาคารสูง 46 ชั้น 1 อาคาร, อาคารสูง 48 ชั้น จำนวน 2 อาคาร และอาคารสูง 49 ชั้น จำนวน 1 อาคาร มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 1,961 ยูนิต โดยนำร่องเปิดขายเฟส 1 ที่มีมูลค่าถึง 9,060 ล้านบาท ในราคาเฉลี่ย 1.2 แสนบาทต่อตารางเมตร

ทุนฮ่องกง ลุยเปิดคอนโดฯ 9 พันล.

หลังจากทั้งผู้บริหารต่างชาติ (จีน) และผู้ถือหุ้นคนไทย ประเมินร่วมกัน ว่า ตลาดคอนโดฯ ในกรุงเทพฯ ยังไปต่อได้ ผ่านยอดขายในโครงการก่อนหน้าทั้ง 5 โครงการ เช่น อาติซาน รัชดา , คลาวด์ เรสซิเด้นซ์ สุขุมวิท 23  ยังมียอดขายเกิดขึ้นต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ตาม อีกทั้งสต็อกเหลือขายรวมทั้ง 5 โครงการนั้น อยู่ในระดับต่ำกว่า 50% เป็นตัวเลขที่เหมาะสม ที่สามารถเติมซัพพลายใหม่ได้ เพื่อต้องการเร่งการเติบโตของกลุ่มบริษัท ทั้งยังมองเป็นจังหวะในการช่วงชิง ขยายฐานลูกค้าจากดีเวลลอปเปอร์ที่ชะลอแผนเปิดโครงการต่างๆ ไป อาศัยจุดแข็งด่านสภาพคล่องแข็งแกร่ง และเครือข่ายลูกค้าต่างชาติ ที่มีการเข้าไปลงทุนทั่วโลกกว่า 7 ประเทศ โดยเฉพาะการเจาะลูกค้าชาวจีน เป็นต้น 

" เชื่อมั่นในสถานะทางการเงินของบริษัท หลังจากได้รับการจัดอันดับความมั่นคงทางการเงินและความสามารถในการแข่งขันจาก ฟิตช์ เรตติ้ง ในระดับ AA ต่างจากดีเวลลอปเปอร์ไทย ซึ่งส่วนใหญ่ อยู่ B+ อีกทั้งประสบการณ์เข้ามาทำตลาดในไทยตั้งแต่ ปี 2561 ทำให้รู้จุดแข็ง จุดอ่อน และกลยุทธ์ในการดึงดีมานด์" นาย หยาน จู้ ผู้อำนวยการโครงการดังกล่าว ระบุ 

โดยบริษัท ตั้งเป้าหมายยอดขายในโครงการดังกล่าว ที่ 1.8 พันล้านบาท ในช่วงปี 2563 หลังจากเชื่อมั่นว่า สถานการณ์โควิด -19 ยิ่งเป็นตัวเร่งความต้องการคอนโดฯในกรุงเทพฯของกลุ่มผู้ซื้อคนจีนและต่างชาติ ขณะที่ทำเลศักยภาพสุขุมวิทตอนปลาย ถือเป็นทำเลที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง  เพราะมีจุดเด่น สามารถเดินทางเชื่อมต่อกับย่านธุรกิจไม่ว่าจะเป็น โซนเพลินจิต, ชิดลม และสยามได้อย่างสะดวกสบาย ครบครันด้วยสถานที่สำคัญที่รองรับไลฟ์สไตล์ ทั้งศูนย์การค้า, อาคารสำนักงาน, สถานศึกษา, โรงพยาบาล รวมไปถึงสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนมากมาย และที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่อย่างบางกอก มอลล์ ซึ่งหากมองในแง่การลงทุน ราคาคอนโดมิเนียมบริเวณสุขุมวิทตอนปลาย ณ ปัจจุบัน มีราคาเฉลี่ยประมาณ 160,000 – 180,000 บาทต่อตารางเมตร และมี Rental Yield เฉลี่ยอยู่ที่ 5 - 8 % 
 

ทุนฮ่องกง ลุยเปิดคอนโดฯ 9 พันล.

ด้านนาย เกษมศักดิ์ สุนทโรทก ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด ริสแลนด์ (ประเทศไทย) กล่าวเสริมต่อว่า ขณะนี้ ถือเป็นจังหวะสำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับกลุ่มบริษัท ในการขยายตลาดในไทย ซึ่งตั้งเป้าหมายอัตราเติบโตปีละ 8-10%  ยอดขายแตะระดับ 1 หมื่นล้านบาทในแต่ละปี ซึ่งช่วงต้นเดือนสิงหาคม บริษัทเตรียมเปิดขายอีก 1 โครงการขนาดใหญ่ย่านรามคำแหง (แยกลำสาลี) ผ่านโครงการ "The Livin Ramkhamhaeng" ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม และสายสีเหลือง อีกจำนวน 1,938 หน่วย 

"ในภาวะที่ตลาดเงียบ กลายเป็นโอกาสในการพิสูจน์ตัวตนของเรา ทั้งแง่การสร้างยอดขายให้เติบโต และขยายฐานลูกค้า สร้างแบรนด์ให้ลูกค้าคนไทยรู้จักมากขึ้น ขณะกลุ่มลูกค้าต่างชาตินั้น เชื่อว่าอย่างไรก็ตาม อสังหาฯไทย ยังเป็นที่ต้องการของนักลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าคนจีน และประเทศอื่นๆ ซึ่งเรามีเอเยนต์เครือข่ายการขายทั่วโลก ในการดึงลูกค้า "

ทั้งนี้ ริสแลนด์ เป็นกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกง ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ และการบริหารจัดการอาคาร มีโครงการอสังหาริมทรัพย์อยู่ในหลากหลายประเทศ ทั้งสหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และประเทศไทย รวมมูลค่าโครงการทั่วโลกประมาณ 550,000 ล้านบาท  และตั้งแต่ปี 2560  เป็นต้นมา ริสแลนด์ ประเทศไทย ได้เปิดตัวโครงการหลากหลายแบรนด์ใหม่ ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ อย่างโครงการ Artisan Ratchada, โครงการ Lake Serene Rama II, โครงการ CLOUD Thonglor-Phetchaburi, โครงการ The Livin Phetkasem, และโครงการ CLOUD Residences – SKV23 เป็นต้น