เดี่ยว “ประยุทธ์” โชว์เอเปค

26 ต.ค. 2565 | 05:00 น.

คอลัมน์ฐานโซไซตี โดย...กาแฟขม

***THANDIGITAL หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3830 ระหว่างวันที่ 27-29 ตุลาคม 2565 โดย...กาแฟขม 
 

*** นับถอยหลังเข้าสู่กลางเดือน พ.ย. มีวาระสำคัญของภูมิภาคนี้และของโลกอยู่ 2 งาน ที่ประเทศไทย มีการประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิก(เอเปค) ก่อนหน้านั้น 2 วัน มีการประชุมกลุ่ม G-20 ที่เป็นกลุ่มผสมผสานการพัฒนาเศรษฐกิจ การเงิน มีประเทศยักษ์ใหญ่ บวกประเทศเกิดใหม่เข้าร่วมอยู่ในนั้น เที่ยวนี้อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ ดูพัฒนาการความร่วมมือของกลุ่มนี้ กระชับหนักแน่นมากกว่าเมื่อเทียบกับเอเปค เสียดายประเทศไทยไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่มด้วย จะเข้าร่วมได้เมื่อมีการเชิญเข้าเป็นประเทศผู้สังเกตการณ์ ซึ่งประเทศนั้นๆ ต้องมีวาระร้อนๆ
 

จริงๆ ที่ผ่านประสบการณ์ในระยะสั้นๆ ทางเจ้าภาพจึงจะเชิญเข้าร่วม พักหลังในการเข้าร่วมหรือสมาชิกก่อตั้งกลุ่มต่างๆ ของไทย ดูจะลดน้อยถอยลง มักถูกมองข้าม มองผ่าน มองเลยไปเยอะ เรียกว่าขาดความเซ็กซี่ไปเยอะในความร่วมมือกับประเทศต่างๆ อันที่จริงการเป็นสมาชิก หรือ ร่วมกลุ่มสมาชิกองค์กรระหว่างประเทศที่สำคัญ ก็สามารถช่วยปกป้องผลประโยชน์ หรือ ช่องทางในการเจรจารักษาผลประโยชน์ประเทศได้ 
 

*** 17-18 พ.ย.นี้ ประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยจะถูกจับตามองจากทั้งโลก เมื่อผู้นำ ผู้แทนของผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจทั้งเอเชีย-แปซิฟิคเข้าร่วมประชุม พร้อมทั้งประเทศชั้นนำที่ได้รับเชิญเข้าร่วมสังเกตการณ์ แสวงหาความร่วมมือ กระชับสัมพันธ์ ในระหว่างประชุมมีเวที เอเปคซีอีโอ ซัมมิต มีนักธุรกิจชันนำจากทั่วโลกเข้าร่วม มีการประชุมคู่ขนานของสภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปค หรือ ABAC ที่นักธุรกิจจะมาถกเถียงปัญหาอุปสรรคการค้า ความก้าวหน้าการพัฒนาของโลก ได้สาระเนื้อหาแล้วเสนอให้ผู้นำได้ตัดสินใจในทางนโยบาย โดยจะมีการเชิญผู้นำบางประเทศ บางเขตเศรษฐกิจร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนทัศนะกับนักธุรกิจเอเปคด้วย 
 

*** ทุกวันนี้เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าโลกทั้งใบเชื่อมกัน อย่างแยกไม่ออก เมื่อประเทศหนึ่งประเทศใด โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ สหรัฐ จีน ออกนโยบายอะไรออกมา กระทบกระเทือนไปทั้งโลก กรณีสหรัฐขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อภายในประเทศ ก็เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด กระทบกับเงินทุนเคลื่อนย้ายและพัฒนาการของประเทศที่มีเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับสหรัฐทันที และกรณีก่อนหน้านี้ที่สหรัฐ-จีนปะทะกันหนักหน่วงในทางการค้า ประเทศเล็กๆ อย่างไทยก็บอบช้ำไปด้วย เพราะการเป็นหนึ่งในห่วงโซ่ผลิตสำคัญของโลก เมื่อสหรัฐบอยคอตจีนในบางสินค้า ก็ทำให้สินค้าจากจีนระบายอ้อมมาผ่านไทย ทางสหรัฐก็ตั้งกำแพงเอากับไทยตามมาด้วย อันนี้ก็กระทบเห็นๆ 

 

***การประชุมเอเปคเที่ยวนี้มาหลังเศรษฐกิจโลกที่ซึมกระทือ มาตั้งแต่ช่วงโควิด เมื่อหมดโควิดทำท่าจะฟื้นตัว ก็เจอนโยบายการเงิน การคลังของสหรัฐเข้าไปอีก บวกเข้ากับสงครามรัสเซีย-ยูเครน ก็ทำให้ยิ่งชอกช้ำ โอกาสในการประชุมเอเปค ต้องลองหาวาระถกเถียง ประธานต้องเข้มแข็งหน่อย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหลุดบ่วง 8 ปีมาได้ ก็ต้องสร้างประวัติศาสตร์ สร้างความเข้มแข็งในเวทีอินเตอร์แบบนี้ให้เห็นหน่อย ผู้นำจากชาติเจ้าภาพในการจัดการประชุมแบบนี้ ให้เป็นเรื่องราวสำคัญมากๆ ต้องไม่ใช่เพียงแค่จับมือผู้นำโลกถ่ายรูป ร่วมงานเลี้ยงแล้วจบๆ ภารกิจ ก็เป็นที่เสียดายโอกาสประเทศ
 

*** อันที่จริง ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จะใช้โอกาสการประชุมเอเปค โชว์วิสัยทัศน์ โชว์ภาพความเป็นผู้นำที่สามารถยืนเรียงเคียงกับผู้นำชาติใหญ่ๆของโลกให้ไม่น้อยหน้า ก็จะเป็นอานิสงส์ในการก้าวเดินทางการเมืองต่อไปของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พวกพ้อง (พรรคการเมือง นักการเมือง) ตามระยะเวลาที่ยังคงเหลืออยู่ ก่อนเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ในกรณีตัดสินใจไปต่อ   
 

*** เลี้ยวมาที่ในประเทศสักนิด ชาวนายังคงรอความหวังเงินประกันรายได้ ที่ยังไม่ผ่านครม.แว่วว่าเงินทองงบประมาณฝืดเคืองติดขัดระยะนี้ ก็ให้เป็นที่ลำบาก ความจริงการจ่ายเงินประกันรายได้ชาวนาเป็นเรื่องง่ายและไม่ซับซ้อนอะไรอยู่ที่ตัวเงิน เม็ดเงิน มี-ไม่มี ก็แค่ควักกระเป๋าเท่านั้น แต่ถ้าให้ดี ลองทำเรื่องที่เป็นการส่งเสริมสนับสนุนดูบ้าง เขาจะได้ไม่ต้องหวังรอพึ่งเงินประกันรายได้ ที่เป็นเรื่องสนับสนุนส่งเสริม อย่างกรณีรัฐบาลนำในการพาเอกชนไปหาตลาดข้าว เจรจากับผู้นำเข้าบางประเทศ ที่เปลี่ยนกฎเกณฑ์ใหม่ในการนำเข้า อย่าง ฟิลิปปินส์ ที่เปลี่ยนมาเป็นระบบการประมูล หาทางช่วยให้เอกชนเข้าตลาดได้ ก็จะเป็นอานิสงส์ ให้ตลาดกว้างขวางขึ้น ทำเรื่องตลาดแล้ว มาทำเรื่องการพัฒนาพันธุ์ข้าว ที่ต้องไม่หยุดนิ่ง ต้องพัฒนาตลอด เคลื่อนไหวตลอด ให้เป็นพันธุ์ที่มีคุณภาพ ผลผลิตต่อไร่สูง แข่งขันได้ แล้วไปดูเรื่องลดต้นทุนให้เขาหน่อย เรื่องแบบนี้รัฐต้องทำ ต้องทุบให้ทำ ให้เคลื่อน จะได้ไม่เป็นภาระ ต้องหาเงินมาแจกกันถ่ายเดียว 
 

*** ไปที่ โรงพยาบาลเมดพาร์ค จะจัดกิจกรรมคอนเสิร์ต “Med Music in the Park” มอบความสุขให้กับทุกคนผ่านเสียงดนตรีในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่ ณ Amphitheater สวนป่าเบญจกิติ เป็นฟรีคอนเสิร์ตใหญ่ทั้งเพลงสากลและเพลงไทย ในสวนป่าอันร่มรื่น ศิลปินคุณภาพ อาทิ Patrizio Buanne ชาวอิตาเลียนผู้มีชื่อเสียงระดับโลก มียอดขายกว่า 1 ล้านแผ่นและเปิดการแสดงมาแล้วทั่วโลก ยังมี เพียว เอกพันธ์ วรรณสุทธิ์ ผู้ชนะการประกวด The Voice At Stars คนแรกของไทย กบ เสาวนิตย์ นวพันธ์ Diva ชื่อดังของ เมืองไทย ลูกหว้า พิจิกา จิตตะปุตตะ นักร้องและนักแสดงมิวสิคัลคุณภาพที่มีผลงานมากมาย Sunny Trio & Natt Buntita ที่กําลังโด่งดังในแนวเพลงแจ๊ส พร้อมด้วยวง RSU Orchestra เรียบเรียงและอํานวยเพลงโดย รศ.ดร.เด่น อยู่ประเสริฐ อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิด้านดนตรีหลายแขนง ที่จะมาสลับกันร้องและบรรเลงเพลงที่ ทรงคุณค่าที่ทุกท่านชื่นชอบ ใกล้วันงานเดี๋ยวจะมาเตือนกันอีกรอบ
 

*** ปิดท้ายกันที่... กำหนดการรดน้ำศพ คุณแม่จิ้ว บุญญามณี อายุ 103 ปี วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เวลา 15.00 น. ณ ศาลาวัดแหลมทราย อำเภอเมืองสงขลา จ.สงขลา 

กำหนดการรดน้ำศพ คุณแม่จิ้ว บุญญามณี