เตือนภัย ระวังมิจฉาชีพเปิดรับบริจาคเงิน กราดยิงหนองบัวลำภู

10 ต.ค. 2565 | 07:14 น.

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนภัย ระวังมิจฉาชีพแอบอ้างเปิดรับบริจาคเงิน เหตุกราดยิงหนองบัวลำภู ตรวจพบมีผู้โพสต์ทางโซเชียลมีเดีย 13 เพจ  เข้าข่ายต้องสงสัย 2 เพจ

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (MDES) เตือนภัยมิจฉาชีพหากินบนความเศร้าโศก เปิดรับบริจาคทำบุญ เหตุกราดยิง ศูนย์เด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู และดำเนินคดีกับผู้แชร์ภาพความสูญเสีย

พล.ต.ต.อาชยน กล่าวว่า จากกรณีเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุกราดยิงภายในศูนย์เด็กเล็ก ที่ จ.หนองบัวลำภู สร้างความสะเทือนใจต่อสังคมเป็นอย่างมาก ขณะนี้ได้มีกลุ่มมิจฉาชีพใช้โอกาสนี้ หลอกลวงประชาชน แอบอ้าง เปิดรับบริจาคทำบุญกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ซ้ำเติมประชาชนในช่วงสถานการณ์ความเศร้าโศก การสูญเสีย

 

ซึ่งขณะนี้ทาง MDES ตรวจพบมีผู้โพสต์ทางโซเชียลมีเดีย จำนวน 13 เพจ  ได้โพสต์หมายเลขบัญชีรับโอนร่วมทำบุญ เข้าข่ายต้องสงสัย 2 เพจ ถึงแม้แอดมินเพจได้มีการลบโพสต์ออกไปแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแล้ว

 จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง และตรวจสอบให้ดีก่อนว่าบุคคลหรือหน่วยงานที่เปิดรับบริจาคมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ ได้รับความเดือดร้อนจริง และเป็นคนเดียวกันกับคนที่ถูกกล่าวอ้างจริง เช่น คนร้ายมักจะเปิดรับบริจาคเป็นชื่อหน่วยงาน แต่บัญชีธนาคารที่รับบริจาคเป็นชื่อบุคคล โดยเฉพาะการขอรับบริจาคผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์

 

ควรตรวจสอบแหล่งที่มาของผู้รับบริจาคก่อนโอนเงินให้ความช่วยเหลือใดๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสจากความเดือดร้อนของผู้อื่น มาใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ และขอเตือนไปยังกลุ่มมิจฉาชีพที่คิดจะฉวยโอกาสจากความเดือดร้อนของผู้อื่น จะต้องถูกดำเนินคดีในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวคอมพิวเตอร์ อีกด้วย

 

อีกทั้งการเผยแพร่แชร์ภาพที่ไม่เหมาะสม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ทยอยถูกลบ ถูกถอด หรือจำกัดการมองเห็นลงบนโซเชียลมีเดียแล้ว หากมีผู้ไม่หวังดีมีความพยายามเผยแพร่ภาพที่ไม่เหมาะสม จะถูกดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

 

โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีความห่วงใยปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งปัจจุบันสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างมาก สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปราบปรามและหาทางป้องกันอย่างจริงจัง ซึ่งปัจจุบันศูนย์ PCT มีการเตือนภัยพี่น้องประชาชน รูปแบบกลโกงของคนร้ายรวมทั้งสิ้น 18 วิธี หากพี่น้องประชาชนพบเห็นบุคคลใด หรือเว็บไซต์ใด ที่มีพฤติกรรมแอบอ้างรับเงินบริจาค หรือน่าสงสัยว่าอาจเป็นกลุ่มมิจฉาชีพมาหลอกลวงพี่น้องประชาชน สามารถแจ้งเบาะแสไปยัง สายด่วน บช.สอท. 1441 หรือ ศูนย์ PCT 081-8663000 ผู้เสียหายสามารถแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com และสามารถติดตามรูปแบบการประชาสัมพันธ์กลโกงได้ที่ pctpr.police.go.th