โฆษกเสรีรวมไทย ย้ำ “เสรีพิศุทธ์” สู้คดี-ไม่ใช้วิธีพิเศษ

04 ต.ค. 2564 | 09:31 น.

เกศศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ โฆษกพรรคเสรีรวมไทย ซัดกลับน้องแรมโบ้ "อย่าหาเรื่องใส่ตัว" ย้ำ “เสรีพิศุทธ์” สู้คดี-ไม่ใช้วิธีพิเศษ

วันที่ 4 ตุลาคม 64 นางสาวเกศศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ โฆษกพรรคเสรีรวมไทยกล่าวว่า สิ่งที่นายชนะศักดิ์ อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี(นายอนุชา นาคาศัย)และเป็นน้องชายนายเสกสกล อัตถาวงศ์ กล่าวพาดพิงถึงหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และนางสาวนภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย

กรณีเตรียมหารือทีมกฎหมายฟ้องรัฐ ข้อหาละเมิดประชาชนปล่อยน้ำท่วมซ้ำซากบริเวณ ต.กุฏี จ. พระนครศรีอยุธยา และแนะนำนางสาวนภาพร ให้ไปช่วยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรค สู้คดีการบุกรุกป่าว่า

นายชนะศักดิ์ฯ เป็นถึงที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องมีความรู้ จะพูดอะไรควรต้องมีข้อมูลที่เพียงพอในการให้ข่าว คดีของท่านเสรีพิศุทธ์ฯ เป็นเรื่องที่ยุติไปแล้ว และชัดเจนว่าท่านได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่า ถ้าด้วยบารมีไม่อาจขอข้อ มูลได้ ก็เชิญมาถามที่พรรคเสรีรวมไทย มีผู้ให้ข้อมูลได้อย่างเพียงพอ หวังว่านายชนะศักดิ์ จะรับทราบและจำไว้ด้วย 

ส่วนกรณีของนางสาวนภาพร ส.ส พรรคเสรีรวมไทย ที่ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือชาวบ้านนั้น ก็เป็นเรื่องของพรรคเสรีรวมไทย นายชนะศักดิ์ฯ ไม่ควรเข้าไปยุ่ง เป็นเรื่องธรรมดาที่เมื่อมีเสียงสะท้อนของชาวบ้าน ต.กุฎี อ.บางบาล จ.อยุธยา ให้พรรคเสรีรวมไทยเข้าไปช่วยเหลือ พรรคก็เข้าไปดูแล 

นางสาวเกศศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ โฆษกพรรคเสรีรวมไทย
 

และเมื่อ ส.ส.นภาพร ลงพื้นที่ก็ได้รับทราบว่า ชาวบ้านเขาคิดเห็นอย่างไรกับนายกรัฐมนตรีก็เท่านั้น ซึ่งนางสาวนภาพรฯ มองว่า "ทั้งที่รัฐบาลมีการตั้งสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำ มีงบประมาณรวมทั้งแผนงานมากมาย แต่วันนี้หลายจังหวัดกลับน้ำท่วม โดยเฉพาะ ต.กุฏี ต.บางบาล ที่เขื่อนปล่อยน้ำปริมาณมากกว่าที่พื้นที่จะรับได้ ทำให้บ้านเรือนประชาชนเสียหายโดยไม่มีการประกาศล่วงหน้า จึงหารือฝ่ายกฎหมายว่า หน่วยงานรัฐละเมิดต่อประชาชนหรือไม่ ที่ปล่อยให้ประชาชนต้องเผชิญสถานการณ์เช่นนี้ และมีแนวทางใดจะฟ้องรัฐที่ละเมิดต่อประชาชนได้บ้าง เพื่อนำผลนั้นมาเยียวยาชาวบ้านที่ถูกละเมิดจากรัฐบาล" 

ความจริงแล้วประเด็นที่นายชนะศักดิ์ ให้ข่าวนี้ก็ไม่ได้เป็นประโยชน์กับพรรคพลังประชารัฐแต่อย่างใด หากจะสร้างผลงานก็ควรจะเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนบ้างก็ดี เผื่อจะได้เลื่อนอันดับปาร์ตี้ลิสให้อยู่ที่ 49 แต่ถ้ายังพูดถึงเรื่องที่ไม่มีประโยชน์อย่างนี้ อาจจะต้องตกไปอยู่อันดับที่ 60 ก็ได้ โฆษกพรรคเสรีรวมไทยกล่าว