รัฐประหาร 19 ก.ย.49 หยุดหายนะประเทศ กำจัดคนโกงชาติ

22 ก.ย. 2564 | 06:00 น.

คอลัมน์ข้าพระบาท ทาสประชาชน โดย... ประพันธุ์ คูณมี

ไม่อยากเขียน ไม่อยากพูดถึง การเมืองเรื่องอดีต ที่ยังวนเวียนเหมือนซ้ำซากจนปัจจุบัน แต่เห็นคนโกงที่ไร้แผ่นดินออกมาโหนกระแสการเมือง หวังฟอกตนเอง บิดเบือนประวัติศาสตร์ กลบเกลื่อนความผิดของตนแบบไร้ยางอาย ทำเป็นตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จต่อสังคม จงใจเจตนาด้อยค่าการต่อสู้ของประชาชนที่กล้าหาญ เสียสละ ออกมาขับไล่คนโกง โค่นอำนาจระบอบทักษิณหยุดหายนะของประเทศ
 

จึงอดไม่ได้ที่ต้องเขียนและพูดความจริงจากคนที่อยู่ในเหตุการณ์ และยังมีชีวิต เพราะไม่ต้องการให้คนโกงและบรรดาสมุนออกมาบิดเบือนประวัติศาสตร์และปิดบังความจริง อ้างประชาธิปไตยบังหน้า หลอกลวงเด็กรุ่นใหม่ที่ไร้เดียงสาทางการเมือง ให้เข้าใจเหตุการณ์บ้านเมืองแบบผิดๆ
 

คนโกงที่ไร้แผ่นดินอยู่และต้องหลบหนีคดี ออกมาโพสต์ลงทวิตเตอร์ พูดเอาดีใส่ตัวว่า "15 ปี ที่แล้วของวันนี้คือ วันที่โอกาสประเทศไทยและคนไทยในสังคมโลกยุคใหม่สูญเสียไปอย่างมากและต่อเนื่อง เพราะการนำประเทศถอยหลังด้วยระบบเผด็จการที่โลกทัศน์แคบ ห่วงแต่สถานภาพตัวเอง แต่ซ่อนรูปอยู่ในคำว่า รักชาติและรักสถาบัน
 

บัดนี้ถูกพิสูจน์แล้วว่า เผด็จการต้องยุติและคืนประชาธิปไตยให้กับประเทศชาติและประชาชนได้แล้ว การรัฐประหารโดยทหารและตุลาการ คือหายนะของประเทศ" นี่คือคำพูดของคนโกงที่พูดความจริงเพียงเศษเสี้ยว แต่ปกปิดความจริงแบบช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิด หรือ สำนวนการเมืองเขาเรียกว่า คนโกงต้องการปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ นั่นเอง
 

ความเป็นจริงของบ้านเมืองเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา หากไม่มีการรัฐประหารยึดอำนาจเพื่อโค่น "ระบอบทักษิณ" โดย คสช. ในวันที่ 19 ก.ย.49 ประเทศไทยคงหายนะย่อยยับไปยิ่งกว่านี้ ด้วยอำนาจของรัฐบาลโกง จนได้รับฉายาว่า "โคตรโกงและโกงกันทั้งโคตร" ซึ่งความเป็นจริงนี้ได้ปกคลุมและดำรงอยู่ในสังคมไทยขณะนั้น จนประชาชนสุดจะทน แต่นักการเมืองจอมโกงไม่ยอมปริปากพูดถึง

เพราะนี่คือสาเหตุหลักที่รัฐบาลทักษิณถูกรัฐประหารยึดอำนาจ มิใช่เรื่องคณะรัฐประหารห่วงตัวเอง หรือต้องการเป็นเผด็จการ โดยอ้างความรักชาติ รักสถาบัน โดยไร้เหตุผลแต่อย่างใด เมื่อเขายึดอำนาจแล้วจึงคืนความเป็นประชาธิปไตยแก่ประชาชนโดยเร็ว พร้อมรัฐธรรมนูญ 2550 และจัดให้มีการเลือกตั้ง
 

ถามว่า รัฐบาลยุคทักษิณโกงจริงหรือไม่ หรือตุลาการกลั่นแกล้ง ข้อเท็จจริงก็ปรากฏให้เห็นเต็มตาชัดแจ้งยิ่งกว่าแสงตะวัน คือ
 

1. ก่อนเข้าสู่การเมือง เป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณร่ำรวยมีทรัพย์สินไม่ถึงสองหมื่นล้าน หลังเป็นนายกฯ ร่ำรวยนับแสนล้าน ติดอันดับ 20 เศรษฐีไทย รวยมาจากอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะการเมืองเอื้อประโยชน์
 

2. 26 ก.พ.2553 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายึดทรัพย์ทักษิณ ชินวัตร และ คุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์ 4.6 หมื่นล้าน ตามกฎหมาย ป.ป.ช. กรณีร่ำรวยผิดปกติ ถ้าไม่โกงแล้วจะรวยผิดปกติไหมครับคุณโทนี่ รายละเอียดอ่านได้ตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
 

3. กรณีซื้อขายหุ้น บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้กลุ่มเทมาเสก สิงคโปร์ โดยเลี่ยงภาษี และเท่ากับโอนกิจการโทรคมนาคมและดาวเทียมให้ต่างชาติ นี่ก็สร้างวีรกรรมโกงภาษี เพิ่งจะมาจบเมื่อไวๆ นี้เอง เมื่อศาลฎีกามีคำวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์คัดค้านการประเมินของเจ้าพนักงาน และเห็นว่าตามพฤติการณ์ผู้อุทธรณ์เป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปที่แท้จริงที่ต้องเสียภาษีอากร

นายพานทองแท้ และ นางสาวพินทองทา เป็นเพียงตัวแทนเชิดในการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปจากแอมเพิลริชฯ นอกตลาดหลักทรัพย์ในราคาต่ำกว่าตลาด จึงมีเจตนาไม่สุจริตเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีอากร และทำให้รัฐเสียประโยชน์ ศาลจึงมีคำสั่งให้ชำระภาษีเป็นเงินทั้งสิ้น 17,629,585,191.00บาท (หนึ่งหมื่นเจ็ดพันหกร้อยยี่สิบเก้าล้านห้าแสนแปดหมื่นห้าพันหนึ่งร้อยสิบเก้าล้านบาทถ้วน) นี่ก็คือหลักฐานโกงรัฐโดยเลี่ยงภาษีอากร
 

4.นอกจากคดีดังกล่าว ทักษิณ ยังถูกฟ้องดำเนินคดีฐานทุจริตและประพฤติมิชอบอีกนับสิบคดี จากการใช้อำนาจโดยมิชอบขณะเป็นนายกฯ เฉพาะที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วได้แก่ คดีทุจริตออกสลากพิเศษเลขท้าย 2ตัว และ 3 ตัว (หวยบนดิน) ศาลจำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา, คดีปล่อยเงินกู้เอ็กซิมแบงค์ให้เมียนมา ศาลจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา, คดีแก้ไขสัมปทานโทรศัพท์มือถือเอื้อบริษัท ชิน คอร์ปฯ ศาลจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา, คดีซื้อขายที่ดินย่านรัชดาภิเษก จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา เหล่านี้คือหลักฐานที่ทักษิณ ไม่กล้าตอบคำถามคนรุ่นใหม่ว่า ถ้าสุจริตแล้วทำไมจึงหนี เป็นคนดีทำไมไม่มีแผ่นดินอยู่
 

5. ในทางการเมืองชอบอ้างประชาธิปไตยบังหน้า แต่เป็นนักประชาธิปไตยจอมปลอม 30 พ.ค.2550 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินให้ยุบพรรคไทยรักไทย เพราะจ้างพรรคเล็กพรรคน้อยให้ลงเลือกตั้งแข่งขันกับพรรคไทยรักไทย โดยจงใจกระทำผิดรัฐธรรมนูญ สร้างประชาธิปไตยเทียมๆ ตบตาคนไทย
 

แม้แต่เกมสกปรกอย่างนี้ยังกล้าเล่น บิดเบือนเจตนารมณ์ของระบอบประชาธิปไตย และทุกพรรคการเมืองของเขาต่อมาก็ถูกยุบพรรคทั้งสิ้น ไม่ว่า พลังประชาชน หรือ ไทยรักษาชาติ เพราะเล่นนอกกติกาประชาธิปไตยด้วยการซื้อเสียง โกงเลือกตั้ง จน กกต.พลอยติดคุกไปด้วยเพราะรับใช้ทักษิณ
 

6. นักวิชาการและสื่อมวลชน ต่างให้นิยาม "ระบอบทักษิณ" ว่า หมายถึงวิธีการดำเนินการทางการเมืองโดยการใช้เงินซื้อนักการเมือง พรรคการเมืองและซื้อคะแนนเสียงจากประชาชนเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยไม่คำนึงถึงความชอบธรรม บริหารประเทศโดยยึดถืออำนาจของตนเป็นหลัก ไม่เคารพเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ แทรกแซงองค์กรอิสระ ศาล สื่อมวลชน องค์กรรัฐทุกองค์กร ทำเพื่อผลประโยชน์ตนเองและพวกพ้อง ทำลายระบบคุณธรรม สร้างความแตกแยกคนในชาติ และทุจริตอย่างมโหฬาร ทำลายสิทธิ เสรีภาพประชาชน กระทั่งสังหารหมู่ยิงทิ้งประชาชนร่วม 5,000 ราย โดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม ด้วยข้ออ้างทำสงครามปราบยาเสพติด นี่หรือประชาธิปไตย ชั่วร้ายยิ่งกว่าทหารยึดอำนาจ
 

7. ก่อนเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 19 ก.ย.49 นอกจากพฤติกรรมโคตรโกง และการบริหารประเทศที่เอาแต่ประโยชน์ตนของผู้มีอำนาจ เบียดบังผลประโยชน์รัฐดังกล่าวแล้ว ระบอบทักษิณยังปลุกปั่นยุงยง จัดตั้งกองกำลังมวลชนที่สนับสนุนตน ให้เตรียมทำร้ายประชาชนฝ่ายพันธมิตรฯ ทำลายประชาชนที่คัดค้านตน กระทั่งโจมตีทำร้ายตำรวจ ทหาร ปล้นอาวุธทหาร วางระเบิดสถานที่สำคัญ จนนำไปสู่สงครามกลางเมืองและการเผาบ้านเผาเมือง ประเทศแทบพินาศ เศรษฐกิจประเทศแทบล่มสลาย สังคมไร้ความสงบสุข แม้แต่สถาบันพระมหากษัตริย์ยังถูกคุกคาม หวังล้มระบอบสร้างรัฐไทยใหม่ ทั้งหมดล้วนมาจากฝีมือของใคร ถ้ามิใช่จากคนหน้าเหลี่ยม
 

ที่กล่าวมา เป็นเพียงความชั่วร้ายบางส่วนของการเมืองในอดีต ที่สร้างบาดแผลร้ายก่อความหายนะแก่ประเทศ ที่เกิดจาก "ระบอบทักษิณ" ทั้งสิ้น จะรำลึกถึงเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา ต้องระลึกถึงความจริง เคารพประวัติศาสตร์ อย่าบิดเบือนพูดเอาดีใส่ตัวโยนความชั่วให้คนอื่น เพราะไม่มีประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องและเคารพความจริงเกิดขึ้นได้หากให้คนโกงเป็นผู้เขียน 
การรัฐประหาร 19 ก.ย.49 ไม่ใช่ความผิดของผู้กล้าลงมือกระทำ การหยุดระบอบการเมืองโกงชาติถือ เป็นคุณูปการ ที่ควรยกย่อง หากจะมีความล้มเหลวก็มีเพียง ไม่ทำลายเชื้อชั่วให้สิ้นซาก ยังเปิดโอกาสให้การเมืองโกง พวกประชาธิปไตยจอมปลอมฟื้นชีพเร็วไปเท่านั้นเอง 
 

ประชาชนผู้ร่วมต่อสู้ล้มระบอบทักษิณ สมควรได้รับการยกย่องและจงมีแต่ความภาคภูมิใจในวีรกรรมของตน จึงไม่มีความจำเป็นใดๆที่จะต้องค้อมหัว ขอโทษคนโกงแต่อย่างใด