นายก่อลาภ สุวัชรังกูร ประธานบริหารฝ่ายการตลาด JD CENTRAL เปิดเผยว่า เจดีเซ็นทรัลเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2561 นับเป็นเวลา 3 ปี ที่ค่อยๆ เติบโต จนก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอีคอมเมิร์ซในไทย ตอกย้ำด้วยตัวเลขการเติบโตที่สูงกว่า 955% ด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่างจากแพลตฟอร์มอื่น โดยเน้นเรื่องสินค้าที่เป็นของแท้และความน่าเชื่อถือ ด้วยจุดยืน “ช็อปของดีการันตีของแท้”
และในเดือนมิถุนายน 2564 ที่ผ่านมาเจดีเซ็นทรัลได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกลยุทธ์ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านพันธกิจ “จอยชัวร์ ตัวจริง” การันตีประสบการณ์ช็อปปิ้งออนไลน์ที่ “ชัวร์ที่สุด” ในทุกแง่มุมและทุกรูปแบบที่นักช็อปมองหา ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เรื่องสินค้าที่เป็นของแท้ชัวร์เท่านั้น
แต่รวมไปถึงความชัวร์ด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น สินค้าคุณภาพดีชัวร์ สินค้ามีความหลากหลายชัวร์ สินค้าส่งเร็วชัวร์ รวมไปถึงบริการหลังการขายที่จะสร้างความประทับใจชัวร์ เพื่อให้นักช็อปทุกคนสนุกและมั่นใจในการช็อปได้ในทุกมิติ ซึ่งผลปรากฏว่าผู้บริโภคมีการรับรู้และเกิดความรู้สึกเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 50% ส่งให้เจดีเซ็นทรัลขึ้นเป็นแอปฯ ที่มีคะแนนสูงสุดในกลุ่มของอีคอมเมิร์ซอีกด้วย
“ตั้งแต่เรามีการปรับกลยุทธ์ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เราเข้าถึงกลุ่มนักช็อปที่กว้างขึ้น เห็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของนักช็อปมากขึ้น เช่น มีนักช็อปผู้ชายหน้าใหม่เข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคมากขึ้นถึง 130% รวมไปถึงกลุ่มสินค้าแฟชั่น และสุขภาพและความงามก็มีนักช็อปเพิ่มขึ้นกว่า 300% ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการสร้างการรับรู้และจดจำภาพลักษณ์การเป็น”ตัวจริง” ที่สามารถการันตีประสบการณ์การช็อปที่ “จอยชัวร์” ให้กับผู้บริโภค ดึงดูดให้พวกเขาเกิดความมั่นใจที่จะเข้ามาจับจ่ายใช้สอยบนแอปฯ ของเรามากขึ้น”
นอกจากการปรับกลยุทธ์ในช่วงกลางปีที่ผ่านมาแล้วนั้น ในปี 2564 นี้ เจดีเซ็นทรัลยังมีการสร้างสรรค์แคมเปญใหม่ๆ ออกมาต่อเนื่อง โดยตลอด 8 เดือนที่ผ่านมามากกว่า 1,000 แคมเปญ โดยในฝั่งของผู้บริโภคนั้น เจดีเซ็นทรัลได้ทำการศึกษาความต้องการของผู้บริโภคในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาและพบว่า สินค้าที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุดในการช็อปออนไลน์ คือ สินค้าในครัวเรือน รวมถึงสินค้าที่ทำให้การอยู่บ้านสนุกและสะดวกสบายขึ้น จึงได้ออกแคมเปญ “จับจ่าย FRIYAY” นำสินค้าอุปโภคบริโภค (Household products) และสินค้าเกี่ยวกับบ้านและไลฟ์สไตล์ (Home & Living) มาลดราคาเป็นพิเศษทุกวันศุกร์ ตามมาด้วยแคมเปญน้องใหม่อย่าง “Crazy Monday” ที่เป็นการลดราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าไอทีและแก็ดแจ็ตต่างๆ เพื่อตอบโจทย์การสร้างความสะดวกและความบันเทิงเมื่อต้องใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเป็นหลักในยุค New Normal
“หลังจากที่ปล่อยแคมเปญจับจ่าย FRIYAY ออกไปก็พบว่าเจดีเซ็นทรัลสามารถช่วยผู้บริโภคประหยัดค่าใช้จ่ายไปกว่า 65 ล้านบาท นับตั้งแต่เปิดตัวแคมเปญมาเพียง 3 เดือน (11 มิ.ย. – 11 ก.ย. 64) นอกจากนี้เราเริ่มเห็นว่ามียอดผู้ซื้อหน้าใหม่เข้ามาในแพลตฟอร์มเรื่อยๆ โดยมีผู้ซื้อหน้าใหม่จาก “จับจ่าย FRIYAY” เพิ่มสูงถึง 450% ในฝั่งของ “Crazy Monday” เอง แม้จะเพิ่งเริ่มแคมเปญได้เพียง 2 สัปดาห์ แต่ก็ช่วยดึงผู้ซื้อเพิ่มขึ้นถึง 35% รวมถึงยังมีพฤติกรรมการซื้อที่น่าสนใจ อาทิ คนซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคเริ่มขยายกลุ่มจากแม่และเด็กไปเป็นกลุ่มคนที่ชื่นชอบขนมขบเคี้ยวและทำอาหารมากขึ้น หรือยอดการซื้อเฉลี่ยต่อครั้งของกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มสูงขึ้น 27%
และในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เน้นที่การเพิ่มบริการ ร้านค้า และฟีเจอร์ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมเปิดการให้บริการของร้านค้าทางการของแบรนด์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลก การเปิดตัวบริการใหม่ “Instant JOY” เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของ on demand delivery ที่โตขึ้นอย่างต่อเนื่อง การันตีส่งของเร็วภายใน 1 ชั่วโมง รวมไปถึงการขยายการให้บริการ E-Voucher ในส่วนของโรงพยาบาล ร้านอาหาร สปา และประกันชีวิต และการเพิ่มร้านค้าแบรนด์ดังๆ ระดับอินเตอร์เนชันนัลเข้ามาในแพลตฟอร์ม เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ในด้านของการสนับสนุนร้านค้าและแบรนด์ต่างๆ เจดีเซ็นทรัลได้เพิ่มโซลูชั่นการตลาดอย่าง MPA (Manage Partner Ads) เข้ามาเพื่อช่วยการกระตุ้นยอดขายของแบรนด์และร้านค้า ให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยถือเป็นแพลตฟอร์มแรกในตลาดอีคอมเมิร์ซที่นำโซลูชั่นนี้มาใช้
นอกจากนี้ยังจัดเต็มแคมเปญ 928 Birthday Fest สุขสันต์วันจอย ระหว่างวันที่ 28 – 30 กันยายน 2564 มอบส่วนลดสูงสุด 90% ตลอด 3 วัน, รับ JD POINTS และ Incredible deals สินค้าราคาพิเศษแบบไม่เคยมีมาก่อน, รวมไปถึงการมอบค่าส่งฟรีทั่วประเทศ นักช็อปยังร่วมสนุกกับ BIRTHDAY POCKET เปิดซองแจกของขวัญทุกวันอีกด้วย