เอกชนชี้อนาคตเทคโนโลยีการเงินแข่งเดือด ตรงเวลา-ตอบโจทย์ลูกค้าคือผู้ชนะ

13 ก.ย. 2564 | 12:25 น.

เอกชนมองอนาคตการเงินต้องใช้เทคโนโลยีในการแข่งขัน เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างเหมาะสม ตรงเวลาและตอบโจทย์ลูกค้า

นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เครือไทย โฮลดิ้งส์ เปิดเผยในงานสัมนา The Future of Financial System อนาคตโลกการเงิน ว่า บริษัทที่มีธุรกิจหลักคือธุรกิจประกัน และการเงินเช่น  อาคเนย์ประกันภัย ,อาคเนย์ประกันชีวิต ,อาคเนย์แคปปิตอล  ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้นำของธุรกิจรถเช่าองค์กร และบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่สนับสนุนการดำเนินธุรกิจหลักให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมั่นคง  อย่างธุรกิจเฮลโซลูชั่น ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการพัฒนาต่อยอดมาจากธุรกิจประกันโดยเป็นธุรกิจที่ดูแลเรื่องสุขภาพการบริหารจัดการด้านการเงินของกลุ่มผู้สูงอายุที่ปัจจุบันสังคงไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้นรวมถึงการเรื่องที่อยู่อาศัยด้วย ซึ่งบริษัทพยายามหาโซลูชั่นมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในมิติอื่นๆให้มากขึ้น

สำหรับทิศทางของธุรกิจในการปรับตัวจากออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนและการมาของเทคโนโลยีนั้นต้องบอกว่าพลวัตรของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการเงินนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกอนาคตการเงินในช่วง4-5ปีในอุตสาหกรรมการเงินเกิดกลุ่มธุรกิจที่เรียกว่าNON-Bankหรือผู้ให้บริการทางการเงินอื่นๆที่ใม่ใช่สถาบันการเงินมีการใช้เทคโนโลยีมาผนึกกับสถาบันการเงินเดิมเพื่อการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งเป็นการใช้เทคโนโลยีใช้อย่างเหมาะสมและถูกเวลานำไปสู่การทรานฟอร์เมชั่นคือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในพลิกโฉมทางธุรกิจ มีการใช้เทคโนโลนี5G  มีการเก็บข้อมูลลูกค้าเข้าสู่ระบบมากขึ้น  จะเห็นได้ว่าธุรกิจNON-Bank เริ่มมีบทบาทมากขึ้น เพราะเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่าย  

มีการนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาใช้เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค การใช้เงินผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ท  ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการขยายตัว500-600% ที่นำเงินจากการฝากของลูกค้าที่นิยมฝากเงินไว้กับธนาคารมาสู่การการใช้จ่ายผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ท  ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้บริโภคมองเรื่องความสะดวกสบายในการใช้จ่าย  ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคตเราสามารถเสนอการใช้บริการผลิตภัณฑ์ต่างๆเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้หลากหลายได้ในเวลาที่เหมาะสม

ในส่วนของธุริจประกันเมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีการให้บริการทางด้านออนไลน์มากขึ้น แน่นอนว่าการลูกค้าสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ง่ายขึ้น ดังนั้นตัวแทนหรือสาขาบริหารอาจจะต้องได้รับผลลกระทบแต่ก็ไม่ทุกผลิตภัณฑ์ทุกบริการที่ต้องให้บริการทางออนไลน์เพราะบางบริการยังคงต้องพึ่งพาสาขาบริหารหรือตัวแทนอยู่

แต่การทั้งนี้อยู่ที่ว่าเรามีข้อมูลค่าอย่างไรและเราต้องรู้ว่าลูกค้าจะเข้าหาเราในช่องทางไหน และเราเองจะเข้าหาลูกค้าในเวลาไหนที่เหมาะสมและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงตามที่ลูกค้าต้องการมากกว่า

ทุกวันนี้เทคโนโลยีมีการพัฒนาไปไกลแล้ว มีคนเข้าไปลองผิดลองถูก ดังนั้นการที่เราเข้าไปที่หลังช่วยให้เราสามารถมองเห็นจุดผิดพลาดและจุดที่สำเร็จ ทำให้สามารถใช้เทคโนโลยีได้ถูกช่องทางและตรงจุดกับความต้องการของลูกค้า เราเองต้องการที่จะทรานฟอร์เมชั่นจากธุรกิจการเงิน ธุรกิจประกันต่อยอดไปยังธุรกิจอื่นๆได้เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างถูกจุดและถูกเวลาและในราคาที่เหมาะสม”