สื่อออสซี่ตีข่าวตอนจบ บทสุดท้ายของ “ธรรมนัส”  

เดอะ ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮอรัลด์ (The Sydney Morning Herald) สื่อใหญ่ของออสเตรเลียที่ขุดคุ้ยตีแผ่คดีของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ตั้งแต่เมื่อเขาถูกจับดำเนินคดีในออสเตรเลีย ได้นำเสนอข่าวการหลุดออกจากตำแหน่งรมช.เกษตรฯ ของผู้กองธรรมนัสเมื่อวานนี้ (9 ก.ย.) ด้วยพาดหัว "รัฐมนตรีที่เคยติดคุกเพราะเฮโรอีน ถูกขับออกจากตำแหน่งแล้ว" (Thai minister jailed in Sydney for heroin importation finally ousted)

การถูกปลดของร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า จากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นข่าวฮือฮาไม่เพียงเฉพาะในประเทศไทย เพราะสื่อใหญ่ The Sydney Morning Herald (SMH) ที่เกาะติดและรายงานข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนในคดีที่ “ธรรมนัส” ถูกจับในคดีลักลอบขนยาเสพติดเมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2536 (1993) และถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกถึง 4 ปีในซิดนีย์ รวมทั้งข่าวการขึ้นเป็นรมช.ของเขาท่ามกลางคำครหาเกี่ยวกับคดีในอดีต สื่อออสเตรเลียฉบับนี้ก็มีการนำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น พาดหัวการถูกขับออกจากตำแหน่งบนเว็บไซต์ข่าวของ SMH เมื่อวานนี้ จึงเป็นเหมือนตอนจบอีกบทหนึ่งบนเส้นทางการเมืองของ ร.อ.ธรรมนัส  

ข่าวของ SMH ระบุว่า ร้อยเอก ธรรรมนัส พรหมเผ่า  มีความพยายามจะจับมือกับพรรคฝ่ายค้านและล็อบบี้เสียงภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในการโค่นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในศึกซักฟอก อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีรายบุคคลเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งในที่สุดพลเอกประยุทธ์ รอดพ้นจากมติโหวต

ในรายงานยังมีระบุด้วยว่า มีข่าวลือว่าพลเอกประยุทธ์พยายามจะจ่ายให้ ส.ส. ราว 200,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย  (ประมาณ 5 ล้านบาท) ต่อคนเพื่อซื้อโหวตไว้วางใจ  แต่ในที่สุดพลเอกประยุทธ์ก็ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว  

รายงานของ SMH ระบุว่า การปลดร.อ.ธรรมนัส ครั้งนี้ มีการประกาศผ่านราชกิจจานุเบกษา โดย นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลว่า สมควรให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์แก่ราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 171 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แต่ฝ่ายร.อ.ธรรมนัสนั้น กล่าวว่า เขายื่นลาออกเพราะไม่สบายใจกับสถานการณ์การเมืองไทยในขณะนี้ และอยากจะกลับไปพำนักที่บ้านเกิดทางภาคเหนือและทำงานช่วยเหลือประชาชนที่นั่น

SMH ยังรายงานด้วยว่า นับตั้งแต่ที่มีการเจาะลึกเพื่อนำเสนอคดีของเขาในออสเตรเลียโดยสื่อท้องถิ่นของออสเตรเลียคือ SMH และ ดิ เอจ (The Age) ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ทั้งทางหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ แต่เรื่องราวที่เปิดเผยโดยผู้กองธรรมนัสเองนั้นก็มีความแตกต่างออกไปราวหนังคนละม้วน รวมทั้งเรื่องที่ว่าเฮโรอีนที่ทางออสเตรเลียตรวจพบและยึดเป็นของกลางนั้น ความจริงแล้วคือผงแป้ง ไม่ใช่ยาเสพติดแต่อย่างใด ซึ่งนอกจากเรื่องคดียาเสพติดแล้ว เรื่องฉาวเกี่ยวกับอดีตของเขายังมาจากประเด็นที่มีผู้สงสัยเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาระดับดอกเตอร์ของเขารวมถึงเรื่องมหาวิทยาลัยที่เขาคว้าปริญญาเอก  ในช่วงที่มีการหยิบยกประเด็นฉาวขึ้นมาตีแผ่นั้น ร.อ.ธรรมนัสขู่จะฟ้องร้องผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกล่าวหาเขาจำนวนนับ 100 คนด้วยกัน

ธรรมนัสผ่านอุปสรรคเมื่อครั้งรับตำแหน่งรมช.ในทุกประเด็น เช่นเรื่องวุฒิปริญญาเอกและการลอกวิทยานิพนธ์ พล.อ. ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีกล่าวในครั้งนั้นว่า การที่ร.อ.ธรรมนัสติดคุกในออสเตรเลียเป็นเรื่องเล็ก ส่วนประเด็นเกี่ยวกับคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยไว้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในออสเตรเลียที่ ร.อ.ธรรมนัสถูกจำคุก 4 ปีนั้น ไม่ขัดกับคุณสมบัติรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ และเรื่องที่เกิดขึ้น ก็เกิดในศาลต่างประเทศไม่เกี่ยวกับศาลไทย

SMH สรุปท้ายข่าวว่า กระทั่งถึงคราวถูกปลดออกจากตำแหน่งเมื่อวานนี้ ร.อ.ธรรมนัส ถือเป็นผู้มีอิทธิพลอย่างสูงภายในรัฐบาลผสมของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี