วันที่ 6 กันยายน 2564 ที่ห้องสะพานหิน วิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต มีการเปิดอบรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อรองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ในการเตรียมความพร้อมการท่องเที่ยว โดยมีนายเจษฎา จันทร์อุไร ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 21 เป็นประธานพิธีเปิด
นอกจากนี้ยังมี นางอัญชลี วานิช เทพบุตร อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายวิทยา เกตุชู ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาภูเก็ต นายพุทธา มากหลาย นายกสมาคมผู้บริหารงานช่างและพัฒนาฝีมือช่างภาคใต้ นายจักรี ชำนาญกิจ ประธานชมรมผู้จัดการอาหารและเครื่องดื่มอันดามัน นายสันติ กาฬเนตร ประธานสมาพันธ์นักบริหารงานอาหารและเครื่องดื่มประเทศไทย เข้าร่วมงานและเป็นวิทยากรการอบรม
สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 21 ภูเก็ต มีแผนฝึกอบรมฝีมือแรงงาน เพื่อรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จำนวน 15 รุ่น 15 สาขาวิชา กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ คือแรงงานใหม่ แรงานที่ถูกเลิกจ้าง ผู้ว่างงาน แรงานนอกระบบ และแรงงานที่ใด้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโคโรน่า-19
ได้เข้ารับการฝึกอบรมจากวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถโดยตรง มาถ่ายทอดวิชาความรู้ในสายงานนั้น ๆ และเสมือนเป็นการปัดฝุ่นให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรม หลังจากที่ห่างเหินจากการทำงาน เพราะสถานการณ์โควิด -19 เพื่อให้มีทักษะหลายด้านรองรับงานที่ต้องการทักษะหลากหลาย โดยมีหน่วยงานราชการต่าง ๆ บริษัทฯ ห้างร้าน ให้การสนับสนุนการอบรมในครั้งนี้เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ที่วางไว้
จังหวัดภูเก็ตจัดสรรงบ 500,000 บาท ให้จัดทำโครงการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานเพื่อรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยมีการอบรมทั้งหมด 15 หลักสูตร จำนวน 15 รุ่น สาขาละ 20 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 300 คน โดยแบ่งอบรมกระจายไปหลายสถานที่ในแต่ละสาขาวิชา ประกอบด้วยหลักสูตรพนักงานผสมเครื่องดื่ม , บาริสต้ามืออาชีพ , การทำเบเกอรี่ , การประกอบอาหารไทย, เทคนิคการนวดออหฟิตซิมโครม, ภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน , ช่างซ่อมบำรุงตามแนววิถีใหม่ , การบริการที่ประทับใจ , การบริหารงานบุคคลสมัยใหม่
มาตรฐานการท่องเที่ยวตามแนววิถีใหม่ (SHA Plus) , เทคนิคการบริการไวน์ , การพัฒนาทักษะเฉพาะทางกับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ (สาขานักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวมสปาตะวันตก (หัตถะบำบัด) , การพัฒนาทักษะเฉพาะทางกับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ (ช่างเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ ขนาดเล็ก) , การพัฒนาทักษะเฉพาะทางกับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ (ช่างไฟฟ้าภายในอาคาร) , การพัฒนาทักษะเฉพาะทางกับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ (การประกอบอาหารไทย)
จากการสอบถามผู้เข้ารับการอบรม ซึ่งมีทั้งเจ้าของกิจการบริษัททัวร์ โรงแรมขนาดเล็ก บุคลากร พนักงานโรงแรม ร้านอาหาร และพนักงานช่างทั่วไป บอกว่า ช่วงระหว่างโควิดตั้งแต่รอบแรกจนถึงปัจจุบัน ทำให้ขาดรายได้หลัก จนเป็นภาระค่าใช้จ่ายประจำที่ต้องจ่าย เช่น ค่าเข่าบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าอาหาร ทั้งของตนเองและครอบครัว ซึ่งเฉพาะค่าใช้จ่ายแต่ละคนต้องแบกรับภาระไม่น้อยกว่า 3 หมื่นบาทในแต่ละคน
เมื่อมีโครงการนี้เกิดขึ้นจึงเป็นที่น่าสนใจ เพื่อจะได้มีทักษะสำหรับทำอาชีพเสริม หรือเพิ่มทักษะในอาชีพหลัก เป็นโอกาสในการพัฒนาปรับปรุงเสริมสร้างความรู้ ในช่วงวิกฤติโควิด ที่ไม่รู้จะสิ้นสุดเมื่อไหร่