วันที่ 20 ส.ค.64 บริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ได้มอบหมายให้ตัวแทนฝ่ายกฎหมาย นำหนังสือยื่นร้องเรียน ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และปลัดกระทรวงมหาดไทย ขอความเป็นธรรมให้สอบสวน การกระทำผิด ของผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกับพวก
โดยหนังสือร้องเรียนระบุว่า จากกรณีที่การไฟฟ้าฯ ได้ส่งหนังสือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่ มท 5305.20/26709 ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2564 ถึง ปลัดกระทรวงการคลังเพื่อลงโทษบริษัทฯ ให้เป็นผู้ทิ้งงานโครงการ ก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี จังหวัดปัตตานี
ทั้งที่ การพิจารณาเรื่องดังกล่าวได้เสร็จสิ้นไปตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 เรียบร้อยแล้ว
บริษัทได้ตรวจสอบข้อมูลที่มีสื่อมวลชนนำเสนอ พบพฤติกรรมที่น่าเชื่อได้ว่านายสมพงษ์ ปรีเปรม ในฐานะผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกับพวก ร่วมกันรื้อฟื้นเรื่องพิจารณาที่ยุติลงแล้ว ขึ้นมาพิจารณาอย่างเร่งรีบทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย
พบว่าวันที่ 9 ก.ค. 2564 ได้นำความเห็นของการไฟฟ้าฯ ที่ลงความเห็นไม่ลงโทษบริษัทฯ ขึ้นมาอีกครั้งตามสายงาน วันที่ 10 ก.ค.64 หน่วยงานภายในการไฟฟ้าฯ ได้ทำความเห็นกลับความเห็นเดิม ที่ไม่ลงโทษบริษัท ให้เป็น ลงโทษบริษัททิ้งงานแทน ท้ังที่สำนวนมีจำนวนไม่น้อยกว่า 248 หน้า แต่สามารถพิจารณาได้ภายใน 24 ชม.ทั้งที่เป็นวันหยุดราชการ ต่อมาวันที่ 11 ก.ค.64 ผู้อำนวยการกองนิติกรรมได้ลงชื่อเสนอเรื่องเพื่อส่งต่อไปภายใน วันเดียวกันกับวันที่ได้รับเรื่อง
ทั้งที่ เป็นวันหยุดราชการเช่นเดียวกัน วันที่ 12 ก.ค.64 ทำเรื่องเสนอผู้ว่ากฟภ.ให้บริษัทเป็นผู้ทิ้งงาน วันที่ 13 ก.ค.64ผู้ว่ากฟภ.ลงนามเห็นชอบลงโทษบริษัทว่าเป็นผู้ทิ้งงาน และในวันเดียวกัน เรื่องถูกส่งถึงปลัดกระทรวงการคลังลงนามในวันเดียวกัน จึงเป็นข้อพิรุธในการดำเนินการใช้เวลาเพียง 6 วัน
บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่า หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาเอกสารอย่างน้อย 2 ฉบับ คือ หนังสือการไฟฟ้าฯ ที่ มท.5306.20/56023 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2562 (เอกสารแนบ 6) เรื่อง หนังสือแจ้งผล การพิจารณาลงโทษผู้ทิ้งงาน และแนวทางปฏิบัติของการไฟฟ้ากรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอหรือคู่สัญญาของ การไฟฟ้าฯ กระทำการอันมีลักษณะเป็นการทิ้งงาน (เอกสารแนบ 7) ก็จะทราบว่าการพิจารณาลงโทษบริษัทฯ ได้จบสิ้น กระบวนการไปแล้วจากกรณีที่การไฟฟ้าฯ ได้ส่งผลการวินิจฉัยให้บริษัทฯ ทราบว่าไม่ต้องถูกลงโทษฐานเป็นผู้ทิ้งงาน แล้ว
การไฟฟ้าฯ จึงไม่มีอำนาจหน้าที่ในการส่งเรื่องนี้ให้ปลัดกระทรวงการคลังวินิจฉัยอีกแล้วบริษัทฯจะได้ยื่นเอกสารชุดเดียวกันนี้ให้กับคณะกรรมการการไฟฟ้าฯ ซึ่งทราบว่ามีผู้ว่าการการไฟฟ้าฯ คนใหม่ที่เพิ่งเข้ารับหน้าที่ ได้พิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่บริษัทฯเพิ่มเติมอีกด้วย ต่อไป