7 ช่องทางสร้างรายได้ เมื่อถูกพักงานช่วงโควิด

18 ส.ค. 2564 | 06:05 น.

ในช่วงวิกฤติโควิด-19 มนุษย์เงินเดือนอาจได้รับผลกระทบจากมาตรการรัฐเพื่อควบคุมโรคติดต่อ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกิจการที่ถูกสั่งปิดเป็นเวลานาน ลองเลือกงานที่เหมาะสมกับความสามารถ หรือทักษะที่มี แล้วลงมือทำทันที ก็ไม่แน่ว่าคุณอาจค้นพบแหล่งรายได้ใหม่ก็เป็นได้

เพจธนาคารไทยพาณิชย์  แนะ 7 ช่องทางสร้างรายได้ เมื่อถูกพักงานช่วงโควิด มีงานอะไรบ้างเราไปดูกัน

1. ขายของออนไลน์ - ถ้าคุณชื่นชอบงานขาย สามารถหารายได้จากการขายของออนไลน์ โดยการหาสินค้ามาขายผ่านช่องทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Lazada, Shopee, Instagram หรือเปิด facebook page ของตัวเอง ซึ่งของที่นำมาขายนั้น ถ้าไม่มีเงินทุน อาจจะใช้วิธีการพรีออเดอร์ เมื่อมีลูกค้ามาซื้อค่อยไปสั่งของมาส่งให้ลูกค้าอีกที หากพอมีเงินทุนอยู่บ้างก็อาจสั่งซื้อสินค้าในราคาส่งมาขายต่อ หรือถ้ามีฝีมือในการประดิษฐ์ อาจทำเป็นสินค้าแฮนด์เมดออกมาขาย นอกจากนี้ของที่ไม่ได้ใช้ก็ยังสามารถนำมาขายเป็นสินค้ามือสองได้อีกด้วย สำหรับรายได้ก็ขึ้นอยู่กับราคาที่เราขายไปหักลบกับราคาต้นทุนของสินค้านั่นเอง

2. เพาะพันธุ์ไม้ด่าง - กระแสความนิยมในไม้ด่างมีมากขึ้นเรื่อยๆ หากที่พักของคุณมีบริเวณมากพอ ลองเพาะพันธุ์ไม้ด่างยอดฮิต อย่างฟิโลเดนดรอน มอนสเตอร่าด่าง พลูฉลุด่าง ออกวางขายดู จะขายเป็นใบ หรือขายทั้งต้น ก็สามารถสร้างรายได้ ประมาณหลักพัน หลักหมื่น หรือ ถ้าได้ใบที่มีลวดลายสวยๆ ด่างมากๆ อาจจะขายได้ถึงหลักแสนเลยทีเดียว เรียกว่านอกจากจะได้ผ่อนคลายความเครียดจากสีเขียวของใบไม้แล้ว ยังหารายได้จากมันได้อีกด้วย

3. เปิดคลาสออนไลน์ - ความรู้ หรือความถนัดที่มีอยู่ บวกกับทักษะในการถ่ายทอดที่ดี สามารถสร้างรายได้ให้คุณจากการเปิดคลาสออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น สอนออกกำลังกาย สอนภาษา สอนทำอาหาร สอนทำบัญชี สอนดนตรี สอนถ่ายภาพตัดต่อวิดีโอ จะเลือกสอนสดตัวต่อตัวผ่านวิดีโอคอล หรือถ่ายเป็นคลิปแล้วนำไปเผยแพร่ต่อในกลุ่มย่อยให้กับผู้ที่จ่ายค่าเรียนมาก็ได้ ทั้งนี้รายได้จะขึ้นอยู่กับทักษะของคุณ ถ้ามีความเฉพาะทางมากๆ แต่คุณเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ก็จะทำเงินได้ดีกว่า ทักษะทั่วๆ ไปที่ใครๆ ก็สามารถทำได้

4. ขายสติกเกอร์ไลน์ - แอปแช็ตยอดนิยมที่คนไทยแทบทุกคนมีติดมือถือ และด้วยความนิยมของการใช้สติกเกอร์เพื่อช่วยเพิ่มสีสันในการสื่อสาร หากคุณมีความสามารถทางศิลปะ บวกกับความคิดสร้างสรรค์ คุณก็สามารถสร้างรายได้จากการขายสติกเกอร์บน LINE Store ได้ โดยทางไลน์จะให้ส่วนแบ่งจากการขายชุดละ 7-9 บาท (แปรผันตามค่าเงินเยน) สมมติว่าสติกเกอร์ที่ทำออกมาน่ารัก เป็นที่นิยม ขายได้วันละ 100 ชุด ก็จะมีรายได้วันละเกือบหนึ่งพันบาท เดือนนึงก็เกือบๆ 30,000 บาทเลยทีเดียว ยิ่งถ้าทำออกมาขายเรื่อยๆ รายได้ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นกอบเป็นกำ

5. นักเขียนออนไลน์ - หากคุณเป็นคนมีจินตนาการ ชื่นชอบการเล่าเรื่อง และมีทักษะทางภาษาที่ดี ลองเขียนบทความ เรื่องสั้น หรือนิยาย ขายทางออนไลน์ดู ซึ่งปัจจุบันก็มีแฟลตฟอร์มที่รองรับนักเขียนออนไลน์อยู่มากมาย เช่น Meb, ReadAWrite, ธัญวลัย เป็นต้น สำหรับนักเขียนมือใหม่ ในช่วงแรกอาจจะเปิดให้อ่านกันฟรีๆ ถ้าเรื่องของคุณสนุก เนื้อหาเข้มข้น มีนักอ่านเข้ามาติดตามมากขึ้น ค่อยเก็บเงินจากการเข้ามาอ่านตอนต่อๆ ไปก็ได้ ทั้งนี้การจะเป็นนักเขียนที่ดีควรมีผลงานออกมาสม่ำเสมอ อย่าให้ผู้อ่านรอนานเกินไป สำหรับรายได้ก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการเขียนของคุณเอง ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสนเลยทีเดียว

6. เชฟ Home Cooking - อาหารถือเป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีพของมนุษย์ ถ้าคุณสนุกกับการทำอาหาร มีฝีมือดี และปรุงรสได้อร่อยเป็นทุนอยู่แล้ว ลองเปลี่ยนครัวเล็กๆ ในบ้านมาเป็นร้านอาหารสไตล์ Home Cooking ขายผ่านแอปฟู้ดเดลิเวอรี่ดูดีกว่า ไม่แน่ว่าอาจมีลูกค้าที่ติดใจในรสชาติอาหารของคุณเข้ามาฝากท้องเป็นลูกค้าประจำก็ได้ สนใจเปิดร้านในแอปโรบินฮู้ด สามารถทำได้ง่ายๆ ที่ https://www.robinhood.in.th/merchant/ คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแรกเข้า แถมยังไม่ถูกหักส่วนแบ่งรายได้ หรือค่า GP ทำให้คุณได้รับเงินจากการขายอาหารเต็มๆ โดยโอนเข้าบัญชีให้อัตโนมัติทุกวันอีกด้วย

7. ขับรถรับส่งอาหาร - ไรเดอร์เป็นเหมือนที่พึ่งยามหิวของใครหลายๆ คน หน้าที่หลัก คือ การนำอาหารจากร้านค้าไปส่งให้ถึงมือลูกค้าที่บ้าน หากคุณมีทักษะในการขับขี่มอเตอร์ไซค์ มีใจรักในงานบริการ รู้จักเส้นทางพอสมควร และสนุกกับการพบเจอผู้คน ลองสมัครเป็นไรเดอร์รับส่งอาหารดู ยิ่งถ้าคุณขยัน งานนี้สามารถสร้างรายได้ให้คุณถึงเดือนละ 25,000-35,000 บาทเลยทีเดียว หากสนใจก็สามารถเข้าไปสมัครได้ที่ https://www.robinhood.in.th/rider/ แม้ไม่มีรถเป็นของตัวเองก็สามารถทำได้ เพราะทางโรบินฮู้ด มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า (ไม่ต้องเติมน้ำมัน) ให้เช่าในราคาเริ่มต้นเพียง 120 บาท ต่อวันเท่านั้น

ในยุคนี้ ถ้าพบช่องทางสร้างรายได้เพิ่มเติม เพื่อนำไปเลี้ยงปากท้องของตัวเองและครอบครัวได้ ก็อย่ารอช้า รีบลงมือทำ หากยังมีแรง ไม่ได้เจ็บป่วยอะไรมาก ก็ไม่จำเป็นต้องไปหวังพึ่งพาใคร หรือรอผู้ใดยื่นมือเข้ามาช่วย ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ยังคงเป็นสัจธรรมของชีวิตอยู่เสมอ