กสิกรไทยจับมือวีซ่ารุกตลาดดิจิทัล เพย์เมนต์ครึ่งปีหลัง

11 ส.ค. 2564 | 08:13 น.

กสิกรไทยจับมือวีซ่ารุกตลาดดิจิทัล เพย์เมนต์ครึ่งปีหลัง ชูเพิ่มสิทธิประโยชน์ คะแนนสะสมรับส่วนลดตอบโจทย์ลูกค้าขาช้อปปิ้งออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ หลังยอดใช้จ่ายออนไลน์ 5เดือนแรกของปี64โต 24%

วันที่ 11 สิงหาคม 2564: ธนาคารกสิกรไทย เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ผลักดันให้ภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยช่วง 5เดือนแรกของปี 2564 พบกว่า 21%ของลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยใช้จ่ายบนช่องทางออนไลน์และมูลค่าการใช้จ่ายบนช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 24% วีซ่าระบุผลศึกษาพฤติกรรมลูกค้า 65% ช้อปผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์  และช้อปผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย 44% 

กสิกรไทยจับมือวีซ่ารุกตลาดดิจิทัล เพย์เมนต์ครึ่งปีหลัง

 นางชลารัตน์ พินิจเบญจพล รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่าภาพรวมยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยในห้าเดือนแรกของปี 2564 มีมูลค่าการใช้จ่ายรวมกว่า 132,000 ล้านบาท เป็นการใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์ 27,000 ล้านบาท เติบโตขึ้น 24% และช่องทางร้านค้าปกติเติบโตขึ้นอีก 14%

 “สถานการณ์โควิด-19 ผลักดันให้ภาพรวมของตลาดอีคอมเมิร์ซประเทศไทยช่วงต้นปีเติบโตขึ้นกว่า 24%การจับจ่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดิจิทัล เพย์เมนต์ ได้กลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตแบบเว้นระยะห่าง และลดการจับเงินสด  ซึ่งธนาคารมีความมุ่งมั่นพัฒนาระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย ให้พร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใช้จ่ายบนช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยได้ร่วมมือกับ วีซ่า ผู้นำการให้บริการด้านการชำระเงินดิจิทัล

นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “โควิด-19 เร่งให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงรูปแบบการค้า และการชำระเงินในรูปแบบดิจิทัล จากการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปีของ วีซ่า (Visa Consumer Payment Attitudes Study) ชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวไทยมองหาช่องทางใหม่ ๆ ในการช้อปปิ้ง โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกช้อปผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ (65 เปอร์เซ็นต์) และช้อปผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย (44 เปอร์เซ็นต์) ดังนั้นระบบนิเวศน์การชำระเงินจำเป็นต้องเสริมโครงสร้างพื้นฐานเดิมด้วยโซลูชั่นบริหารจัดการการฉ้อโกงที่ทันสมัยและเชื่อถือได้ โดยในโลกที่ก้าวสู่ความเป็นดิจิทัลมากขึ้น ความปลอดภัยในการชำระเงินกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับจากผู้บริโภค และต้องกลายเป็นรากฐานในการดำเนินธุรกิจ การค้าทั้งในวันนี้และวันหน้า”

โซลูชั่นที่ธนาคารกสิกรไทยและวีซ่า ได้ทำงานร่วมกันเพื่อหาแนวทางและนำมาปรับใช้ในการนำเสนอให้แก่ผู้บริโภค ที่นอกจากจะเสริมความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นในการเลือกทำธุรกรรมในรูปแบบดิจิทัลแล้ว ยังเป็นการมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าในการซื้อสินค้าออนไลน์ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังชำระเงินเสร็จสิ้นแล้ว อาทิ One Time Password (OTP) ที่หลายคนคุ้นเคย โดยเป็นการยืนยันพาสเวิร์ดแบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งลูกค้าจะได้รับผ่านทางข้อความในโทรศัพท์มือถือเพื่อยืนยันถึงการทำธุรกรรมนั้น ๆ ตลอดจนการเพิ่มเกราะป้องกันการฉ้อโกงด้วยบริการโทเค็นของวีซ่า (Visa Token Service หรือ VTS) โซลูชั่นที่ทำให้ธนาคารกสิกรไทยสามารถประมวลผลการชำระเงินได้โดยไม่ต้องเปิดเผยรายละเอียดบัญชีจริง โดยระบบจะทำหน้าที่เปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของบัญชี และรายละเอียดของบัญชีเป็นรหัสโทเค็นแบบสุ่ม เพื่อลดคุณค่าของข้อมูลและทำให้นักต้มตุ๋นนำไปใช้ประโยชน์ต่อไม่ได้

และวีซ่า ซีเคียว (Visa Secure) โซลูชั่นที่ให้ความสำคัญเท่ากันทั้งเรื่องของความปลอดภัยและความสะดวกของผู้บริโภคด้วยระบบป้องกันความปลอดภัยในระดับชั้นเพิ่มเติมประเภท 3-D Secure ระบบตัวใหม่ล่าสุดของโปรโตคอล 3DS มาตรฐานล่าสุดของ EMV® ที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันการฉ้อโกงอีกหนึ่งชั้นเพื่อช่วยให้ธนาคารกสิกรไทยและร้านค้ามั่นใจได้ว่าการทำธุรกรรมนั้น ๆ เกิดขึ้นจริง โซลูชั่นนี้นอกจากจะช่วยให้ผู้ขายไม่สูญเสียยอดขายอันเป็นผลจากการที่การชำระเงินถูกปฏิเสธ ยังช่วยยกระดับประสบการณ์การจับจ่ายในภาพรวมให้ลูกค้าได้อีกด้วย

นอกจากการเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและการเสริมความปลอดภัยในระบบการชำระเงินดิจิทัล ธนาคารกสิกรไทยยังได้ให้ความสำคัญในการทำการตลาดเพื่อกระตุ้นให้ผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทยที่มีกว่า 3.2 ล้านใบทั่วประเทศได้ออกมาใช้จ่ายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซกันมากขึ้น(มี.ค.-พ.ค.64)

สำหรับกิจกรรมการตลาดในครึ่งปีหลังนี้ บัตรเครดิตกสิกรไทย ยังคงมุ่งเน้นในการเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่ชื่นชอบการช้อปออนไลน์มากยิ่งขึ้น เช่น การเพิ่มคะแนนสะสมจากหมวดช้อปปิ้งออนไลน์  ไม่ว่าจะเป็นการช้อปปิ้งออนไลน์ในประเทศหรือการช้อปออนไลน์จากต่างประเทศ ไปจนถึงโปรโมชั่นการแลกคะแนนสะสม การรับส่วนลด หรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ การเลือกผ่อนชำระสินค้า 0 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น