นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศาลแพ่งมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้าม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. บังคับใช้สาระสำคัญในข้อกำหนดที่ออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 29 ที่ห้ามนำเสนอข้อความที่อาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว และระงับอินเตอร์เน็ต
“ที่ระบุว่าข้อกำหนดที่ออกมาไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ระบบของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่วางไว้ หากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องพิจารณาในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยต้องยื่นเรื่องผ่าน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หาก ป.ป.ช.ไต่ส่วนมีมูลเข้าข่ายความผิดทางอาญา ก็จะส่งให้อัยการสูงสุด ยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ถ้ามีมูลเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงเรื่องก็จะไปถึงศาลฎีกา" นายชูศักดิ์ ระบุ
นายชูศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ประเด็นนี้ทางพรรคเพื่อไทยอยู่ระหว่างการร่างคำร้องเพื่อยื่นต่อป.ป.ช.ให้ไต่สวน พล.อ.ประยุทธ์ ดำเนินการโดยฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ เป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบ เพราะคำสั่งศาลแพ่งระบุไว้ชัดเจนว่า การออกข้อกำหนดดังกล่าวไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ฝ่าฝืนกฎหมาย เข้าข่ายฝ่าฝืนประมวลจริยธรรม
เมื่อร่างคำร้องเสร็จแล้วก็จะให้ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านร่วมกันลงชื่อเพื่อยื่นต่อป.ป.ช.ต่อไป คาดว่าจะยื่นได้ช่วงสัปดาห์หน้า
ส่วนความคืบหน้าในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นพรรคเพื่อไทยชัดเจนแล้วว่า จะยื่นอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นหลัก
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเกี่ยวกับรัฐมนตรีคนอื่นด้วย แต่จะนำไปหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านวันที่ 11 ส.ค.เพื่อสรุปรายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายกันอีกครั้ง