ม็อบ 3 นิ้ว เคลื่อน 7 ส.ค. จาบจ้วง ก้าวล่วงที่มิบังควร

06 ส.ค. 2564 | 03:47 น.

“แรมโบ้” ไม่เห็นด้วยม็อบ 3 นิ้วประกาศเคลื่อนขบวนไปยังพระบรมมหาราชวัง 7 ส.ค. เป็นการจาบจ้วง ก้าวล่วงที่มิบังควร คนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย หวั่นมือที่ 3 สร้างสถานการณ์

วันที่ 6 สิงหาคม 2564  นายเสกสก อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการนัดชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก หรือ ม็อบ 3 นิ้ว ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ที่จะเคลื่อนขบวนไปยังพระบรมมหาราชวัง เพราะที่ผ่านมาการชุมนุมของม็อบกลุ่มนี้ได้สร้างความรุนแรง มีทั้งระเบิดเพลิง  ระเบิดปิงปอง อาวุธ หนังสติ๊ก กระสุนเหล็กต่างๆระดมใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ยั่วยุทุกรูปแบบ ปิดถนนสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนที่สัญจรไปมาได้รับผลกระทบการทำมาหากินอย่างหนัก 

 

และในวันที่ 7 สิงหาคมการที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะเคลื่อนขบวนไปยังพระบรมมหาราชวังนั้นยังทำให้ประชาชนคนไทยที่ปกป้องและจงรักภักดี รับไม่ได้กับวิธีคิดเช่นนี้ โดยอย่าให้ประชาชนคนไทยที่จงรักภักดี ปกป้องสถาบันต้องออกมาชุมนุมคัดค้านกับกลุ่มนี้เลย ขณะเดียวกันการเคลื่อนไปพระบรมมหาราชวังยังเป็นการจาบจ้วง ก้าวล่วงที่มิบังควร ดังนั้นสิ่งที่กำลังคิดคนไทยส่วนใหญ่ไม่ยอมเด็ดขาด

 

“สิ่งสำคัญการชุมนุมครั้งนี้อาจจะเกิดมือที่สามเข้ามาสร้างสถานการณ์ สร้างความรุนแรงเราไม่ต้องการเห็นการเกิดความรุนแรงขึ้นในการชุมนุม จึงขอเตือนม็อบว่าอย่าได้มีการเคลื่อนไหว หรือเดินทางไปที่พระบรมมหาราชวัง และอย่าให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

นายเสกสก อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี

ส่วนพี่น้องประชาชนที่จงรักภักดี จะออกมาเคลื่อนไหวปกป้องสถาบันแม้ว่าจะสามารถออกมาเคลื่อนไหวได้ตามสิทธิ แต่จะต้องเป็นไปตามกฎหมายเช่นกัน อย่าให้กระทบกระทั่งกัน อย่าให้เกิดความรุนแรงระหว่างม็อบด้วยกันจะเข้าทางม็อบสามกีบที่นิยมความรุนแรง เราคนไทยด้วยกันต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย อะไรที่ทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้และปลอดภัยจากวิกฤตโควิด จะต้องช่วยกันและก้าวผ่านวิกฤตไปด้วยกันจะดีกว่าที่จะมาทะเลาะกันรบราฆ่าฟันกันเองจนแผ่นดินไทยนองเลือด จุดนี้คือสิ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังที่สุดเพื่อระงับเหตุความรุนแรง

 

แต่หากกลุ่มผู้ชุมนุมปลดแอกหรือสามกีบ ก่อความวุ่นวายให้เกิดขึ้นหรือใช้ความรุนแรงเช่นเหตุการณ์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งเพียงแค่การร่วมชุมนุมก็มีความผิดทางอาญา โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เรื่อง การห้ามชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 9 ได้ มีผลตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2564

พร้อมฝากถึงแกนนำม็อบขอให้หยุดได้แล้ว เพราะขณะนี้บ้านเมืองต้องการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ไม่อยากเห็นคนไทยด้วยกันต้องมาทะเลาะกันเกิดเหตุรุนแรงบนท้องถนน เพราะกลุ่มม็อบปลดแอกสามกีบนิยมความรุนแรงเพราะมีคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลังที่ต้องการให้เกิดความรุนแรงหรือสงครามกลางเมือง เพื่อต้องการที่จะให้ประเทศไทยเกิดความวุ่นวาย มีคนวางแผนต้องการทำลายสถาบันฯอย่างนายปิยบุตร แสงกนกกุลและพวกล้มเจ้าที่คอยบัญชาการวางแผนอยู่ต่างประเทศ เพื่อทำลายการปกครองอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขของไทยเรา พวกเราคนไทยที่ปกป้องสถาบันรู้ทันคนเหล่านี้เป็นอย่างดี จึงยอมคนพวกชั่วๆแบบนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน

 

"การเคลื่อนไหวอ้างว่าเรียกร้องประชาธิปไตยแต่กลับใช้ความรุนแรงและมุ่งหน้าไปพระบรมมหาราชวัง เป็นที่ชัดเจนคนชั่วๆเลวๆเหล่านี้เป็นคนหนักแผ่นจริงๆ ไม่สมควรจะมีที่ยืนหรืออาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทยอีกต่อไป "