รัฐบาลรื้อภาษีสรรพสามิตรถยนต์ไฟฟ้า PHEV เหลือ 5% ไม่ล็อคสเปกถังน้ำมัน

29 เม.ย. 2568 | 08:29 น.
อัปเดตล่าสุด :29 เม.ย. 2568 | 08:39 น.

มติครม. รื้อภาษีสรรพสามิตรถปลั๊ก-อินไฮบริด PHEV โดยใช้ระยะทางวิ่งไฟฟ้า 80 กม.เป็นเกณฑ์ และตัดข้อกำหนดเดิมเรื่องขนาดถังน้ำมันต้องไม่เกิน 45 ลิตร ออกไป พร้อมรับภาษีสรรพสามิต 5% มีผล 1 มกราคม 2569

วันนี้ (29 เม.ย. 68) ดร.เผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ. ....ตามที่กรมสรรพสามิตเสนอ เพื่อปรับปรุงเงื่อนไขภาษีรถปลั๊ก-อินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle -PHEV) มีรายละเอียดดังนี้

อัตราภาษีสรรพสามิตใหม่ รถปลั๊ก-อินไฮบริด PHEV

  1. ให้มีอัตราภาษี รถปลั๊ก-อินไฮบริด PHEV ที่แตกต่างจากรถยนต์ Hybrid Electric Vehicle (HEV)
  2. กำหนดเงื่อนไขการคำนวณอัตราภาษีสรรพสามิต รถปลั๊ก-อินไฮบริด PHEV ​​​​​​​ เฉพาะระยะทางการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าต่อการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง (การชาร์จ) เท่านั้น
  3. ยกเลิกขนาดถังน้ำมันให้ไม่เป็นเงื่อนไขการกำหนดอัตราภาษี PHEV เพื่อลดศักยภาพของประเทศในการเป็นศูนย์กลางการผลิต เพราะต้องผลิตถังน้ำมันที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล อีกทั้งยังเป็นการสร้างข้อจำกัดโดยไม่จำเป็น สร้างภาระ และทำให้ PHEV ไม่ได้รับความนิยม

สำหรับอัตราภาษีสรรพสามิตรถปลั๊ก-อินไฮบริด PHEV ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 มีรายละเอียดดังนี้

 

  1. รถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ประเภท PHEV ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด ที่มีระยะวิ่งด้วยระยะทางการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 80 กิโลเมตร ต่อการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง ให้ PHEV มีอัตราภาษีสรรพสามิต 5% 
  2. รถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน ประเภท PHEV ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด ที่มีระยะวิ่งด้วยระยะทางการวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าต่ำกว่า 80 กิโลเมตร ต่อการประจุไฟฟ้า 1 ครั้ง ให้มีอัตราภาษีสรรพสามิต 10%

 

การกำหนดพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวสอดคล้องกับหลักสากล ช่วยส่งเสริมและต่อยอดให้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ PHEV ที่มีมาตรฐานและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย ตอบสนองการใช้รถยนต์ PHEV ที่สามารถใช้พลังงานไฟฟ้าในเขตตัวเมือง และใช้พลังงานผสมในการเดินทางระหว่างเมือง