MGC-ASIA ธุรกิจรถ เรือ เครื่องบิน ฝ่ายุคตกต่ำอุตฯ ยานยนต์ไทย

22 มี.ค. 2568 | 06:22 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มี.ค. 2568 | 06:29 น.

MGC-ASIA ที่มีทั้งธุรกิจขายรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ เรือหรู ไปจนถึงการให้บริการเครื่องบินเช่าเหมาลำ มุ่งขยายอาณาจักรให้ครอบคลุมทั้งระบบนิเวศน์ของอุตสาหกรรม

ในช่วงที่อุตสาหกรรมยานยนต์กำลังเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี สภาพแวดล้อมทางการแข่งขันและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง ขณะที่ตลาดรถยนต์ไทยปี 2567 ทำยอดขายได้แค่ 5.7 แสนคันต่ำสุดในรอบ 15ปี

 

MGC-ASIA นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี 2566 ปัจจุบันแยกธุรกิจออกเป็น 4กลุ่มคือ 1.ค้าปลีกยานยนต์เป็นดิสทริบิวเตอร์-ดีลเลอร์รถยนต์,มอเตอร์ไซค์เรือแม่น้ำและยอชต์ 2.ธุรกิจให้บริการหลังการขาย 3.ธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ระยะสั้น-ระยะยาว 4.กลุ่มธุรกิจอื่นๆ เช่น การบริการทางการเงินจากบริษัท อัลฟาเอกซ์ จำกัด ซึ่ง MGC-ASIA ร่วมทุนกับบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด(มหาชน) ปัจจุบันมีพอร์ตสินเชื่อรวมกว่า 7,000 ล้านบาท และบริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ให้บริการธุรกิจบริการประกันภัย

MGC-ASIA ธุรกิจรถ เรือ เครื่องบิน ฝ่ายุคตกต่ำอุตฯ ยานยนต์ไทย

MGC-ASIA ที่นำโดยดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท มิลเลนเนียมกรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น(เอเชีย)จำกัด (มหาชน) จะนำพาเรือสำเภาลำใหญ่ฝ่ามรสุมครั้งนี้อย่างไร“ฐานเศรษฐกิจ”ร่วมสัมภาษณ์

 

  • ซบอีวีจีน-ซ่อม TESLA ดันรายได้

 

ดร.สัณหวุฒิ เปิดเผยว่า MGC-ASIA มีฐานลูกค้ากว่า 600,000 รายจากทุกธุรกิจในเครือ แต่ในปีที่ผ่านมานับว่า มีความท้าทาย โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศลดลง 26% เมื่อเทียบกับปี 2566 จากสภาพเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนสูง และผู้คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ทว่าเรายังรับมือกับสถานการณ์ได้น่าพอใจ โดยมีอัตราส่วนยอดขายลดลง 10%ส่วนหนึ่งมาจากการขายแบรนด์จีน XPENG (ได้สิทธิ์เป็นดิสทริบิวเตอร์) และ ZEEKR (เป็นดีลเลอร์)

MGC-ASIA ธุรกิจรถ เรือ เครื่องบิน ฝ่ายุคตกต่ำอุตฯ ยานยนต์ไทย

ปี2567 เราแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย XPENG ไป 12แห่งทั่วประเทศและเปิด ZEEKR by Z Mobility Plus อีก 2สาขาคือ ศรีนครินทร์และวิภาวดี ขณะที่ธุรกิจบริการหลังการขายรวมถึงศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง Tesla Approved Body Shop (TAB) อยู่ในช่วงขยายตัวและมีกำไรต่อเนื่อง จากการเพิ่มจำนวนของรถยนต์ที่เข้ารับบริการ 19%

  • Alpha X หนุนโปรดักต์ไฮเอนด์

 

ส่วนอัลฟาเอกซ์ ธุรกิจให้บริการทางการเงินกับกลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง ทั้งรถยนต์ เรือยอชต์และเครื่องบิน ซึ่งในปีที่ผ่านมา เน้นการให้สินเชื่อเพื่อสร้างความมั่งคั่ง (Wealth Lending) ที่ให้ผลตอบแทนในระดับสูงและมีความเสี่ยงที่ต่ำ ส่งผลให้พอร์ตการให้สินเชื่อเติบโต 45%

MGC-ASIA ธุรกิจรถ เรือ เครื่องบิน ฝ่ายุคตกต่ำอุตฯ ยานยนต์ไทย

ขณะเดียวกันยังปรับลดขั้นตอนทำงานและลดต้นทุนการดำเนินงานลงได้กว่า 10% จากปีก่อนหน้า และลดการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์สำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีความเสี่ยง ส่งผลให้การลงทุนทางด้านเครดิตลดลงกว่า 50%เมื่อเทียบกับปี 2566

 

ส่งผลให้อัลฟาเอกซ์ มีกำไรสุทธิเป็นปีแรกและปีนี้ยังเน้นการเติบโตผ่านบริการ Wealth Lending ในอัตราที่สูงขึ้นพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วย AI นำเสนอทางออกในการชำระหนี้ที่ยั่งยืนให้กับลูกค้า

 

  • บริหารคน-ลดขั้นตอนทำงาน

 

ปี2568 MGC-ASIA ก้าวสู่ปีที่25 ของการดำเนินธุรกิจ เรายังวางกลยุทธ์พื่อสร้างการเติบโตให้ทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจผ่านแผน 3Psคือ

 

PEOPLE พัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถสูงมีทัศนคติที่มุ่งเน้นการให้บริการ

PROCESS พัฒนากระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุดมุ่งปรับขั้นตอนการทำงานในส่วนต่างๆให้เหมาะสมลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนประหยัดทั้งเวลาและทรัพยากร

PROFIT สร้างผลกำไรให้ผ่านการจำหน่ายยานยนต์รุ่นใหม่ๆ รวมถึงบริการต่างๆผสานกับบริการหลังการขายศูนย์ซ่อมสีตัวถังและบริการดูแลรถยนต์ขณะที่รถเช่ามีแผนเพิ่มจำนวนยานยนต์ไฟฟ้าในฟลีตรถเช่าระยะยาว

สำหรับผลการดำเนินงานของ MGC-ASIA ในปี2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 20,334 ล้านบาท กำไรสุทธิ 145.60 ล้านบาทและ EBITDA ระดับ 1,631 ล้านบาท

MGC-ASIA ธุรกิจรถ เรือ เครื่องบิน ฝ่ายุคตกต่ำอุตฯ ยานยนต์ไทย

ล่าสุดคณะกรรมการ MGC-ASIA ได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน ภายในวงเงินไม่เกิน 100 ล้านบาท และจำนวนหุ้นซื้อคืนไม่เกิน 30 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 2.7% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยวิธีการซื้อหุ้นจะเป็นการซื้อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. ถึงวันที่ 17 ก.ย. 2568

 

เหตุผลในการซื้อหุ้นคืน เพราะบริษัทพิจารณาว่า ราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี จึงได้ตัดสินใจดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนบริหารโครงสร้างเงินทุน (Capital Management) เพื่อเสริมสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยบริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีกำไรสะสมและสภาพคล่องส่วนเกินเพียงพอ รวมถึงมีความสามารถในการชำระหนี้ที่ครบกำหนดภายในระยะเวลา 6 เดือน

 

"การซื้อหุ้นคืนจะส่งผลให้มูลค่าทางบัญชีในส่วนของผู้ถือหุ้น และจำนวนหุ้นที่ถือโดยผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ลดลง ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) และอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) สูงขึ้น และที่สำคัญจะสร้างโอกาสที่ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น ในระดับที่ P/E เท่าเดิม”ดร.สัณหวุฒิกล่าว