ปิกอัพไม่ฟื้น ส่งออกซึม โตโยต้าฟันธงปี 2568 ตลาดรวม 6 แสนคัน

05 ก.พ. 2568 | 04:19 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ก.พ. 2568 | 04:25 น.

โตโยต้า คาดตลาดรถยนต์รวมปีนี้ 6 แสนคัน เพิ่มขึ้น 5% จากปี 2567 ตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งการตลาดด้วยยอดขาย 2.3 แสนคัน เซกเมนต์ปิกอัพยังไม่ฟื้น ส่งออกทรงตัว

ตลาดรถยนต์ไทยปี 2567 ทำได้ 5.72 แสนคัน ลดลง 26.2% เมื่อเทียบกับปี 2566 ต่ำสุดในรอบ 15 ปีของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ส่วนปีนี้หลายภาคส่วนยังมองว่า สถานการณ์ยังไม่ฟื้นตัว จากภาวะเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนสูง และยังไม่มีปัจจัยบวกมาสนับสนุนอย่างชัดเจน

 

กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ตั้งเป้าการผลิตรถยนต์ปี 2568 ไว้ 1.5 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 2% ในจำนวนนี้แบ่งเป็นขายในประเทศ 5 แสนคัน ส่งออก 1 ล้านคัน

ปิกอัพไม่ฟื้น ส่งออกซึม โตโยต้าฟันธงปี 2568 ตลาดรวม 6 แสนคัน

สอดคล้องกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานว่าต้องเฝ้าดูสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลต่อการส่งออก ตลอดจนสถานการณ์ที่ทางสถาบันการเงิน อาจยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ เนื่องจากความกังวลต่อความสามารถในการชำระหนี้จากภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงสูง และอัตราหนี้เสียที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงต่อไป ทำให้คาดการณ์ว่ายอดขายรถยนต์ในปี 2568 จะอยู่ที่ 600,000 คัน เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

 

ในส่วนโตโยต้า ตั้งเป้ายอดขาย 231,000 คัน เพิ่มขึ้น 5% โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 38.5%(เท่าเดิม) ด้านการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปคาดการณ์ว่ายังต้องเผชิญกับภาวะทรงตัวสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ตลอดจนภาวะฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประเทศคู่ค้า ส่งผลให้โตโยต้า ตั้งเป้าการส่งออกรถยนต์ 336,184 คัน ลดลง 1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และตั้งเป้าการผลิตรถยนต์ทั้งหมดของปี 2568 ไว้ที่ 537,860 คัน เพิ่มขึ้น 0.3%

โดยมีปัจจัยหลากหลายด้านที่ส่งผลกระทบต่อทิศทางของตลาดในปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นกำลังซื้อที่ลดลงตามสถานการณ์ปัจจุบันของเศรษฐกิจ รวมถึงค่าครองชีพ อัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ทรงตัวสูง ตลอดจนความเข้มงวดของมาตรฐานในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดรถยนต์ภายในประเทศยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

ปิกอัพไม่ฟื้น ส่งออกซึม โตโยต้าฟันธงปี 2568 ตลาดรวม 6 แสนคัน

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผยว่า ปัจจัยลบกระทบการส่งออกรถยนต์ในปี 2568 จากความชัดเจนในมาตรการด้านการค้าและอื่นๆ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่าจะขึ้นภาษีอากรนำเข้าอีกมากน้อยแค่ไหน

 

ขณะที่ประเทศคู่ค้ามีการผลิตรถกระบะซึ่งอาจลดคำสั่งซื้อ และอาจส่งออกแทนประเทศไทยจากการผลิตรถกระบะลดลง รวมถึงความขัดแย้งและการสู้รบในภูมิภาคต่างๆ อาจขยายเพิ่มขึ้นทั้งภูมิภาคเดิมและภูมิภาคใหม่ ตลอดจนมาตรการเข้มงวดการปล่อยคาร์บอนของรถยนต์ของประเทศคู่ค้า จะทำให้รถยนต์บางรุ่นนำเข้าไม่ได้

 

ส่วนยอดขายในประเทศ มีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน คือเศรษฐกิจในประเทศขยายตัว 2.4-2.9% และยังคาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรรวมทั้งสินค้าอุตสาหกรรมบางกลุ่มขยายตัวเพิ่มขึ้น

 

“การลดดอกเบี้ยในประเทศซึ่งจะทำให้ต้นทุนและภาระการชำระหนี้ลดลงช่วยเพิ่มอำนาจซื้อในประเทศ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันอาจลดลงจากการเรียกร้องของประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ภาระค่าใช้จ่ายและต้นทุนการดำเนินงานลดลง อำนาจซื้อของประชาชนมากขึ้น” นายสุรพงษ์ กล่าวสรุป