นิสสัน คิกส์ ขับตามตะวัน นครพนม-ตาก 950 กม.
แม้ยอดขายจะร่วงกราวรูด ไม่มีโปรดักต์ใหม่เปิดตัวให้ครึกครื้น แต่ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ยังกัดฟันสู้เคียงข้างดีลเลอร์ที่พร้อมร่วมหัวจมท้าย ประคองตัวเพื่อรอวันหน้าฟ้าเปิด หวังกลับมาผงาดง้ำค้ำตลาดในระดับที่ควรจะเป็นอีกครั้ง
แต่นั่นละครับ ตามข่าวที่ฮอนด้า มอเตอร์ นิสสัน มอเตอร์ และมิตซูบิชิ มอเตอร์ส เตรียมรวมธุรกิจตั้งบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งกว่าโครงสร้างใหม่จะพร้อมตั้งไข่ น่าสนใจว่าในช่วง 1-2 ปีนี้ จะมีสุญญากาศในการทำธุรกิจหรือไม่
เรื่องอนาคตก็ว่ากันไป แต่ปัจจุบัน นิสสัน มีทรัพยากรค่อนข้างจำกัด(เมื่อเทียบกับสมัยก่อน) ยอดขายลดลงต่อเนื่อง โรงงานผลิตรถยนต์ที่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ก็ย่อสเกลลงมา(ยังดีที่มีตลาดส่งออก)
สำหรับโปรดักต์ที่ทำยอดขายเป็นกอบเป็นกำให้กับนิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย คืออีโคคาร์ อัลเมรา และนิสสัน คิกส์ โดยรุ่นแรกเป็นเก๋งซีดานเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบ ส่วนรุ่นหลังเป็นบี-เอสยูวี ไฮบริดแบบซีรีส์ ที่นิสสันเรียกว่า อี-พาวเวอร์ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตรปั่นไฟ และมีมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนเพลาล้อ
ล่าสุด เพื่อให้แบรนด์ดูมีความเคลื่อนไหว สร้างสีสันให้ 2 โปรดักต์เส้นเลือดใหญ่ของค่าย นิสสันได้จัดกิจกรรม “Waycation ขับตามแสงตะวัน” ที่เริ่มต้นจาก จ.นครพนม มุ่งไปทางทิศตะวันตก ผ่าน จ.ขอนแก่น จ.เพชรบูรณ์ จ.พิษณุโลก จ.สุโขทัย แล้วจบเส้นชัยที่ อ.แม่สอด จ.ตาก รวมระยะทางประมาณ 950 กม.
การขับขวางประเทศ แบ่งเป็น 3 ช่วงครับ สลับนักข่าวมาขับ 3 กลุ่ม ผมเลือกไปเริ่มต้นที่จุดสตาร์ท จ.นครพนม ริมแม่น้ำโขง - จ.ขอนแก่น กับนิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์
นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ที่ผมขับเป็นรุ่นท็อป Autech ราคา 979,900 บาท มีความโดดเด่นเพิ่มเติมจากรุ่น VL ด้วยการติดตั้งสเกิร์ตสีเงินเมทาลิคด้านหน้า-หลัง และข้างซ้าย-ขวา แปะสัญลักษณ์ AUTECH ที่กระจังหน้า สอดคล้องกับกระจกมองข้างสีเงินเมทัลลิค
ทั้งยังเพิ่มวัสดุตกแต่งตรงไฟตัดหมอกคู่หน้า ส่วนล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้วสีดำเงา ขณะที่ไฟเลี้ยวปรับและพับด้วยไฟฟ้า พับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ ภายในเข้มขรึมด้วยสีทูโทนสไตล์ดำตัดกับสีน้ำเงิน
ด้วยความยาว 4.3 เมตร ระยะต่ำสุดจากพื้น 175 มม. ผมว่านิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ มีความคล่องตัวสำหรับการใช้งานในเมืองมากๆ ไม่ว่าจะเลี้ยว จะจอด หรือช่วงผ่านหลุม ข้ามเนิน เบียดฟุตบาทไม่ต้องเสียวมาก
คือเป็นรถที่ใช้งานแล้วสบายใจ แถมอัตราเร่งช่วงออกตัวดีจากการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน ได้บุคลิกการตอบสนองแบบรถ EV เพียงแต่มาพร้อมความนุ่มนวล ไม่กระโชกกระชากจนเกินไป
ด้วยคุณลักษณะต่างๆ การขับในเมืองผมไม่สงสัยในความสามารถ แต่พอลองขับต่างจังหวัดอย่างทริปนี้ มุ่งจากตลิ่งริมแม่น้ำโขง สู่ จ.สกลนคร ที่ช่วงแรกเป็นทางราบ ใช้ความเร็วได้ระดับหนึ่ง ก่อนจะขึ้นเขา ผ่านโค้งปิ้งงู ใกล้อุทยานแห่งชาติภูพาน เส้นทางคดเคี้ยวหลายทับ ข้างทางเป็นป่าสน ทิวเขา ก่อนเข้าสู่ จ.กาฬสินธุ์ และวิ่งทางหลวงยาวๆ เข้า จ.ขอนแก่น
จากเส้นทางที่บรรยายมานี้ ผมชื่นชมสมรรถนะของนิสสัน คิกส์ ที่ช่วยให้ถึงจุดหมายต่างๆ ได้แบบไม่เครียด ช่วงล่างแน่นๆ ทรงตัวดี ให้ความประทับใจมากกว่าโตโยต้า ยาริส ครอส ส่วนการควบคุมเนียนๆ มีผ่อนมีตึง ตามสภาพการขับขี่ สั่งงานได้ตามความคาดหวังที่จะให้ไป
อัตราเร่งยอดเยี่ยมจากกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 136 แรงม้า แรงบิด 230 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์ควบคุมอัตราทดแบบ 1 สปีด ไปที่เพลาล้อหน้า พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ที่ขยับสเปกเป็น 2 kWh รองรับการขับขี่ที่ต้องการพละกำลังอย่างรวดเร็ว และหวังอัตราบริโภคน้ำมันที่เป็นมิตร
ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน HR12DE แบบ 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ขนาด 1,198 ซีซี กำลัง 82 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 103 นิวตัน-เมตร พ่วงติดกับเจเนอเรเตอร์เป็นต้นกำลังในการปั่นพลังงานไฟฟ้า เมื่อมีหน้าที่ชัดเจน การทำงานทรงๆ นิ่งๆ รอบไม่สวิงวูบวาบ ตามความเร็วหรือ จังหวะเร่ง ซึ่งหลักการ ไฮบริดแบบซีรีส์นี้ เครื่องยนต์ไม่ต้องทำงานหนัก จึงช่วยให้รถประหยัดน้ำมัน อย่างในทริปการเดินทางนี้ ผมยังเห็นตัวเลขระดับ 16-17 กม./ลิตร
ออพชันความปลอดภัยจัดให้ ทั้งระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้า ระบบเตือนจุดอับสายตา ระบบเตือนหากออกนอกช่องทางขับขี่ ระบบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง และกล้องมองภาพรอบทิศทาง
รวบรัดตัดความ...ใครอยากได้เอสยูวีไฮบริดขนาดพอเหมาะ ใช้งานในเมืองคล่องแคล่ว วิ่งทางไกลออกต่างจังหวัดมั่นใจ พร้อมความอเนกประสงค์สมรรถนะการขับขี่ดี นิสสัน คิกส์ ยังน่าใช้ครับ
เรื่อง : กรกิต กสิคุณ