สถานการณ์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปี 2567 ถือว่าหนักหน่วง ทั้งการขายในประเทศ และตลาดส่งออกที่มีปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า โดยข้อมูลล่าสุดจากทางกลุ่มยานยนต์ ส.อ.ท.ได้ปรับเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในปี 2567 ลดลง จากเดิมที่ตั้งไว้ 1.9 ล้านคัน ก็ปรับลดมาเป็น 1.7 ล้านคัน โดยปรับลดในส่วนของตลาดในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากความเข้มงวดของไฟแนนซ์ และสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ฟื้นตัว หนี้ครัวเรือนสูง ขณะที่การผลิตเพื่อส่งออกต่างประเทศยังคงยึดเป้าหมายเดิม
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบัน ทำให้ทาง "วิจัยกรุงศรี" โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา ได้ออกมาวิเคราะห์ถึงแนวโน้มและทิศทางของธุรกิจ-อุตสาหกรรมยานยนต์ว่าจะเป็นอย่างไรในอนาคต ซึ่งข้อมูลโดยสรุปเบื้องต้นระบุว่า การผลิตรถยนต์ช่วงปี 2567-2569 มีแนวโน้มหดตัว -3.5 ถึง -2.5% ต่อปี อันเนื่องมาจากการหดตัวของตลาดในประเทศปี 2567 และการแข่งขันกับรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ปริมาณการผลิตจะเริ่มกระเตื้องขึ้นในช่วงปี 2568-2569 โดยยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศมีแนวโน้มหดตัวเฉลี่ย -4.5% ถึง -3.5 % ต่อปี ในปี 2567 จากการอนุมัติสินเชื่อที่ยังคงเข้มงวด และภาวะกำลังซื้อที่ยังคงอ่อนแอจากค่าครองชีพและสัดส่วนหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง แต่จะเริ่มฟื้นตัวในปี 2568-2569 โดยมีปัจจัยหนุนการฟื้นตัวดังนี้
ส่วนยอดส่งออกรถยนต์มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 1.0-2.0% ต่อปี โดยในปี 2567 อาจยังทรงตัวหรือหดตัวเล็กน้อย แต่จะขยายตัวในช่วงปี 2568-2569 ตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจและภาวะกระเตื้องขึ้นของการลงทุนในประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะตลาด ASEAN ที่จะได้อานิสงส์จากการเข้าไปลงทุนขยายฐานการผลิตจากจีนและญี่ปุ่น
ผู้ผลิตรถยนต์
ผู้ผลิตรถยนต์นั่งเครื่องยนต์สันดาปภายใน
ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
ผู้ผลิตรถกระบะ 1 ตัน
ผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ (รถบรรทุก รถโดยสาร และรถตู้)
ที่มาข้อมูล