ดร.พิศิษฐ์ อริยเดชวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า บริษัทฯได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัดเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์(ไฟลิ่ง)ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) เพื่อระดมทุนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
ทั้งนี้บริษัท จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 80 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 26.67% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ทำให้หลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ มีทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น เป็นทุนที่ออกและชำระแล้ว 110 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 220 ล้านหุ้น
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน มีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ลงทุนในโครงการคลังสินค้าแห่งใหม่ ลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ลงทุนเตาชุบแข็งแบบไนไตรดิ้ง เพื่อให้บริการชุบได้อย่างครบวงจร และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการและดำเนินการอื่นๆ
“เราเป็นผู้นำในการจำหน่ายเหล็กกล้าเกรดพิเศษในไทย ที่มีความเชี่ยวชาญและพร้อมด้วยองค์ความรู้มาอย่างยาวนาน ประกอบกับมีพันธมิตรทางธุรกิจอันแข็งแกร่ง ทั้งกลุ่มผู้ผลิตสินค้าชั้นนำระดับโลกที่ไว้วางใจให้บริษัทฯ เป็นผู้จัดจำหน่าย รวมทั้งลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ให้การยอมรับและมีประวัติสั่งซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด”ดร.พิศิษฐ์กล่าว
ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีเป้าหมายสร้างการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน โดยมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและรองรับการฟื้นตัวและการเติบโตของอุตสาหกรรมในประเทศไทย พร้อมแสวงหาโอกาสขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG ที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
ปัจจุบัน “เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล” ได้จำหน่ายสินค้าและให้บริการด้วยกัน 4 ส่วนหลัก ประกอบด้วย
ส่วนกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯ จะอยู่ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ เช่น ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อะไหล่ ล้อรถยนต์ และอุปกรณ์เสริมยานยนต์ ฯลฯ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง เช่น ผู้ผลิตวัสดุอุปกรณ์ที่ทำจากอลูมิเนียม ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ และผู้ผลิตท่อและเหล็กโครงสร้าง ฯลฯ กลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร เช่น ผู้ผลิตน้ำตาลทราย บรรจุภัณฑ์อาหาร และเครื่องใช้ในครัวเรือน รวมถึงมีกลุ่มลูกค้าอื่นๆ ทั้งลูกค้ารับจ้างผลิตชิ้นงานตามแบบ ลูกค้าผู้รับเหมาย่อย และลูกค้าซื้อมาขายไป