BLESS เปิดเทรดวันแรกที่ 1.56 บาท เพิ่มขึ้น 11.43% จากราคาไอพีโอ

07 ก.ค. 2565 | 03:42 น.

BLESS เปิดเทรดวันแรกราคาอยู่ที่ 1.56 บาท เพิ่มขึ้น 11.43% จากไอพีโอที่ 1.40 บาท ซีอีโอ "ชัยวัฒน์ "มั่นใจแนวโน้มในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า โตก้าวกระโดด หลังเข้าตลาด ทำให้ฐานทุนแกร่ง พร้อมลุยซื้อที่ดิน 2-3 แปลง รับแผนบุกตลาดแนวราบที่ยังมีดีมานด์สูง วางแผนลุยเปิด 2-3 โครงการต่อปี

บริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BLESS ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่พักอาศัยเพื่อขาย เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันนี้ (7 ก.ค.2565) ราคาเปิดเทรดวันแรกอยู่ที่ 1.56 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท หรือ 11.43% จากราคาไอพีโอที่ 1.40 บาท

 

นายชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (BLESS) เปิดเผยว่า ราคาหุ้นที่พุ่งสูงและมีมูลค่าการซื้อขายคึกคัก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ในฐานะผู้ประกอบการอสังหาฯที่มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะแผนการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะยิ่งเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพิ่มโอกาสการเติบโตก้าวกระโดดในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า

 

“ผมขอขอบคุณที่นักลงทุนให้การต้อนรับ BLESS อย่างอบอุ่น ทีมผู้บริหารและพนักงานบริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน โดยบริษัทฯเตรียมนำเงินที่ได้ไปใช้ในการซื้อที่ดิน 2-3 แปลง รองรับแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 2-3 โครงการต่อปี สนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด”

 

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายรอโอนที่มีกว่า 400 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้ของโครงการ Bless Ville สุขุมวิท บางปู ที่คาดว่าจะเริ่มโอนในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ และกำไรขั้นต้นคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับเดียวกันกับปีก่อนหน้า หรือไม่น้อยกว่า 30%

 

 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BLESS กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิดโครงการอสังหาฯแนวราบ รองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มีจำนวนมาก สอดคล้องกระแส New Normal ที่คนส่วนใหญ่ใช้เวลาและทำงานที่บ้าน (Work From Home) มากขึ้น โดยเตรียมเปิดโครงการ Blessington เจาะกลุ่มลูกค้าตลาดกลาง-บน คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2566

 

นายอภิชาต แสงจันทร์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดหน่ายและรับประกันการจำหน่าย บริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (BLESS) กล่าวว่า การเข้าเทรดในวันแรกของ BLESS ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม เนื่องจากนักลงทุนมั่นใจปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯที่มีความแข็งแแกร่ง และฐานทุนมีความพร้อมมากขึ้นในการขยายตลาดแนวราบ โดยหลังการระดมทุน สัดส่วนหนี้สินต่อทุนจะลดลงจาก 1.43 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2565 เหลือประมาณ 1.15 เท่า

 

“จากฐานทุนที่ใหญ่ขึ้น ผนวกกับแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 2-3 โครงการต่อปี จะทำให้ธุรกิจของ BLESS ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในระยะยาว ในฐานะหุ้นอสังหาฯน้องใหม่ High Growth-High Margin ที่น่าจับตามอง”

 

โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา BLESS รายได้เติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปี และในปี 2563 รายได้สร้างสถิติสูงสุดใหม่ แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ก่อนที่ในปี 2564 รายได้จะลดลงเล็กน้อย เนื่องจากในปี 2563 มีการปรับลดราคา และเร่งระบายสต็อก อีกทั้งในปี 2564 ยังได้รับผลกระทบจากปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และการปิดแคมป์คนงาน ทำให้ไม่สามารถโอนบ้านได้ตามแผนที่กำหนด แต่บริษัทฯ ยังรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นได้กว่า 30% และกำไรสุทธิที่ไม่น้อยกว่า 10%
 

ทั้งนี้ BLESS มีโครงการหลากหลายทั้งคอนโดฯ ทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว บนพื้นที่ศักยภาพ กระจายบริเวณกรุงเทพชั้นนอกและ ปริมณฑล ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกความต้องการ โดยที่มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย และพัฒนา ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2565 มูลค่ากว่า 2,970 ล้านบาท และมีโครงการบ้านเดี่ยวที่กำลังจะเปิดตัวใหม่มูลค่า 720 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการของ BLESS สร้างด้วยระบบ Wall Form ที่มีความแข็งแรง และรวดเร็ว

 

โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ของ BLESS หลัง IPO สามแรกแรกประกอบด้วย

 

  • กลุ่มโกวิทจินดาชัย ถือหุ้นรวม 40.19%
  • กลุ่มสุขเจริญไกรศรี ถือหุ้นรวม 31.50%
  • นายพีรนัฎฐ์ ตันติพจน์ ถือหุ้น 3.75%

 

บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินทุนสำรองต่างๆ ทุกประเภท ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทและตามกฎหมาย