หุ้นไทยร่วงหนัก 45.02 จุด วอลุ่มท่วม 1.28 แสนล้านบาท

07 มี.ค. 2565 | 12:04 น.

แรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก จากความกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลต่อหุ้นไทย รูดลงอย่างหนัก ปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,626.70 จุด ลดลง 45.02 จุด หรือ 2.69% มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นถึง 127,806.20 ล้านบาท

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ระบุว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ดัชนีหุ้นร่วงลงอย่างหนัก แกว่งตัวในแดนลบตลอดทั้งวัน  หลังความตึงเครียดระหว่าง รัสเซีย-ยูเครน มีแนวโน้มยืดเยื้อ โดยสหรัฐและชาติพันธมิตรเตรียมเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม อาจทำให้สถานการณ์ยืดเยื้อต่อไป

 

ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับลงไปต่ำสุดที่ระดับ 1,616.08 จุด ลดลง 55.64% ก่อนจะปรับขึ้นมาปิดการซื้อขายที่ระดับ  1,626.70 จุด ลดลง 45.02 จุด หรือลดลง 2.69%  มูลค่าการซื้อขาย 127,806.20 ล้านบาท  โดยมีหลักทรัพย์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 316 หลักทรัพย์ ลดลง 1,948 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 140 หลักทรัพย์

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

  • PTTEP  มูลค่าการซื้อขาย 6,840.92 ล้านบาท ปิดที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,465.09 ล้านบาท ปิดที่ 154.00 บาท ลดลง 7.00 บาท
  • BANPU มูลค่าการซื้อขาย 5,173.04 ล้านบาท ปิดที่ 12.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
  • PTT มูลค่าการซื้อขาย      4,564.00 ล้านบาท  ปิดที่ 38.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
  • GULF มูลค่าการซื้อขาย   3,926.36 ล้านบาท ปิดที่  46.50 บาท ลดลง 3.25 บาท

 

ขณะที่การซื้อขายของนักลงทุนรายกลุ่มพบว่า นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 11,758.30 ล้านบาท ขณะที่สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 6,583.65 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ  2,881.04 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 2,293.61 ล้านบาท

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงเป็นไปตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ที่ตอบรับความกังวลของนักลงทุนในสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ ประกอบมาตรการคว่ำบาตรที่ตอบโต้กันที่อาจมีออกมาเพิ่มเติม จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของเศรษฐกิจโลกให้กลับไปชะลอตัวได้ ทำให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อโยกเข้าไปที่สินทรัพย์ปลอดภัย

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) บัวหลวง

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้มีโอกาสรีบาวด์ทางเทคนิคหลังคงไปแรงมาก แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก อาจทำให้ดัชนีมีความผันผวน แนะเกาะติดความคืบหน้าสถานการณ์ในยูเครน และใช้ความระมัดระวังในการลงทุนช่วงนี้ให้มาก อย่างไรก็ตาม สามารถเก็งกำไรหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากปัจจัยดังกล่าว โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มโรงกลั่นและพลังงานที่ได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันพุ่ง ให้แนวต้าน 1,640 จุด และ แนวรับ 1,620 จุด