หุุ้นไทย เปิดตลาดเช้านี้ ( 11 ก.พ.65 ) ร่วง 11.85 จุด หรือ -0.70% ดัชนี SET เมื่อเวลา 10.01 น. อยู่ที่ระดับ 1,691.15 จุด มูลค่าซื้อขาย 5,347.08 ล้านบาท ดัชนียืนสูงสุด 1,024.81 จุด และต่ำสุด 1,020.51 จุด
ดัชนี SET50 อยู่ที่ 1,021.65 จุด ลดลง 8.23 จุด หรือ -0.80 จุด มูลค่าซื้อขาย 3,259.38 จุด ดัชนีสูงสุด 1,024.81จุด และต่ำสุด 1,020.51 จุด
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ (บล.)เคทีบีเอสที กล่าวว่า คาดดัชนี SET วันนี้มีโอกาสปรับฐานลดลง หลังเฟดมีโอกาสปรับดอกเบี้ยเร็วขึ้นและมากกว่าคาด จากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ เดือน ม.ค.ที่สูงขึ้น 7.5% จากที่คาด 7.3%
ทั้งนี้นาย James Bullard ประธาน Fed สาขา St. Louis ระบุว่า Fed อาจขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือน มี.ค. รวมถึง ขยับขึ้นเป็น 1% ในเดือน ก.ค. มีผลลบต่อตลาดวานนี้ จากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้นักลงทุนสหรัฐฯวิตกและขายหุ้นทั้ง Value และ Growth ออกมาทั้งคู่ ขณะที่พันธบัตรที่ตอบสนองมากที่สุด คือ อายุ 2 ปี ที่ปรับจาก 1.36% เป็น 1.58% ภายในวันเดียว และ Bond Yield อายุ 10 ปี ขึ้นแตะระดับ 2.0% อีกครั้ง คาดมีผลกระทบมาถึงตลาดหุ้นเอเซีย รวมทั้งไทย แต่น่าจะเป็นช่วงสั้นๆ หุ้นเสี่ยงต่อการถูกขายทำกำไร คือ หุ้นที่ราคาขึ้นมามาก และหุ้นที่อิงกับ Tech
บล.เคทีบีเอสที ให้กรอบการพักตัวระยะสั้น แนวรับ 1,692-1,697 จุด แนวต้าน 1,708-1,713 จุด
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินว่าแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ พักตัวแนวรับ 1,690 - 1,695 จุด จากแรงกดดันเงินเฟ้อที่รุนแรงของสหรัฐ CPI เดือนม.ค. +7.5% YoY ส่งผลให้ US bond yield 10 ปีดีดตัวเหนือ 2% และอาจทำให้ FED ต้องเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อยับยั้งเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตามแรงซื้อดักงบและเงินปันผลปี 2564 รวมถึงศบค.เตรียมผ่อนคลายมาตรการคุมโควิดเพิ่มเติมในวันนี้จะช่วยให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้