กสิกรไทยประเมินค่าเงินบาท -แนะติดตาม 5ปัจจัยสัปดาห์หน้า

16 ม.ค. 2565 | 01:46 น.

กสิกรไทยมองสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 17-21มกราคม 2565 กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.90-33.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ

5ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม “ ทิศทางเงินทุนของต่างชาติ สถานการณ์โควิด-19 การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น  การกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯอเมริกา”

 

ธนาคารกสิกรไทยมองสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 17-21มกราคม 2565 กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.90-33.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนของต่างชาติ และสถานการณ์โควิด-19 การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น และการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย เดือนม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามจีดีพีไตรมาส 4/64  และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนธ.ค. อาทิ การผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกด้วยเช่นกัน

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 10-14มกราคมที่ผ่านมา

          เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น โดยการแข็งค่าของเงินบาทสอดคล้องกับทิศทางสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย ประกอบกับยังมีปัจจัยบวกจากสัญญาณเงินทุนไหลเข้า ซึ่งนักลงทุนต่างชาติมีสถานะเป็นฝั่งซื้อสุทธิทั้งในส่วนของตลาดหุ้นและพันธบัตรไทย ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ขาดแรงหนุนเพิ่มเติม หลังจากที่ประธานเฟดส่งสัญญาณคุมเข้มนโยบายการเงินเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่ก็จะไม่ให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ

กสิกรไทยประเมินค่าเงินบาท -แนะติดตาม 5ปัจจัยสัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ดี ทิศทางอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลงบางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ หลังข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ขยับขึ้นและความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด สนับสนุนโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. นี้ และเมื่อวันศุกร์ (14 ม.ค.) เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 33.20 เทียบกับระดับ 33.66 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (7 ม.ค.)