อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทแข็งค่าทดสอบแนว 33.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ (แข็งค่าสุดรอบ 7 สัปดาห์ นับตั้งแต่ 25 พ.ย. 64) ก่อนจะกลับมาปิดตลาดในประเทศที่ 33.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า แม้เงินบาทจะมีแรงหนุนจากสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ แต่กรอบแข็งค่าของเงินบาทเริ่มชะลอลงปลายสัปดาห์
เนื่องจากตลาดเปลี่ยนความสนใจไปที่โอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือนมี.ค. หลังข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ ขยับขึ้นและเจ้าหน้าที่เฟดมีท่าทีสนับสนุนมุมมองดังกล่าว
สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,059.58 ล้านบาท แต่ยังคงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยอีก 4,420 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 14 มกราคม 2565 โดยธปท. อยู่ที่ -1.29 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ 2.08 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้า ระหว่างวันที่ 17-21มกราคม 2565 คาดไว้ที่ 32.90-33.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนของต่างชาติ และสถานการณ์โควิด-19 การประชุม BOJ และการกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของจีน
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย เดือนม.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามจีดีพีไตรมาส 4/64 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนธ.ค. อาทิ การผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกด้วยเช่นกัน