บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)กสิกรไทย มองดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 3-7ม.ค.65แนวรับที่ 1,645 และ 1,630 จุดแนวต้านอยู่ที่ 1,675 และ 1,700 จุด ตามลำดับ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธ.ค. 64 ของไทย รวมถึงทิศทางเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI การจ้างงานของภาคเอกชน การจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงานเดือนธ.ค.64 บันทึกการประชุมเฟด (14-15 ธ.ค. 64)
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI เดือนธ.ค. 64 ของญี่ปุ่น จีนและยูโรโซน รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธ.ค. 64 (เบื้องต้น) และดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนพ.ย. 64 ของยูโรโซน
สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย
ดัชนี SET แตะระดับสูงสุดของปีที่ระดับ 1,660.85 ในวันทำการสุดท้ายของปี ก่อนจะกลับมาปิดที่ระดับ 1,657.62 จุด เพิ่มขึ้น 1.25% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 67,935.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.67% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 2.09% มาปิดที่ 582.13 จุด
หุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบช่วงต้นสัปดาห์ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ระหว่างที่นักลงทุนรอประเมินสถานการณ์โควิดโอมิครอน ก่อนจะทยอยปรับตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ หลังนักลงทุนคลายความกังวลบางส่วนต่อสถานการณ์ดังกล่าว
เนื่องจากผลวิจัยเบื้องต้นในหลายประเทศชี้ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนอาการไม่รุนแรง ซึ่งกระตุ้นแรงซื้อหุ้นหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร ไฟแนนซ์และพลังงาน นอกจากนี้ หุ้นไทยยังมีแรงหนุนจากแรงซื้อกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงการทำ Window Dressing ด้วย