“ช้อปดีมีคืน” มาแน่ “สุพัฒนพงษ์” เผยของขวัญปีใหม่ให้คนไทย

13 ธ.ค. 2564 | 09:07 น.

“สุพัฒนพงษ์” รับ “ช้อปดีมีคืน” หนึ่งในของขวัญปีใหม่ที่จะมอบให้คนไทยปลายปีนี้ พร้อมลุ้นของขวัญจากกระทรวงอื่นพร้อมกันวันที่ 21 ธ.ค.นี้ ขณะที่การแพร่ระบาดของ “โอมิครอน” ชี้ยังมีมุมมองเชิงบวก มั่นใจไทยรับมือได้

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในงานเสวนา “Go Thailand : เปิดเมือง เปิดประเทศ เศรษฐกิจไทยจะไปทางไหน” ที่จัดโดยหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ถึงของขวัญปีใหม่ของรัฐบาลที่จะมอบให้ประชาชนในช่วงสิ้นปีนี้ ว่า ในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ จะมีความชัดเจนว่ากระทรวงไหนจะมีของขวัญปีใหม่อะไรมอบให้ประชาชนบ้าง ซึ่งทุกกระทรวงจะต้องมารายงานเพื่อสรุปในที่ประชุม ครม.

 

ส่วนมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” ยอมรับว่านายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ระบุไว้เช่นกัน ว่าจะเป็น 1 ในมาตรการที่จะมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย แต่จะมีรายละเอียดอย่างไรขอให้รอวันที่ 21 ธันวาคมนี้

 

“นายกสั่งการให้ทุกกระทรวงนำของขวัญปีใหม่ที่จะมอบให้ประชาชน เข้ามาเสนอและสรุปในที่ประชุม ครม. 21 ธ.ค.นี้ ซึ่งช้อปดีมีคืน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ได้เกริ่นไว้ว่าจะอยู่ในโปรแกรมที่จะเสนอเป็นของขวัญปีใหม่ ก็ขอให้รอความชัดเจนวันที่ 21 ธันวาคมนี้” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว

 

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

ส่วนกรณีแผนการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนนั้น กรณีหากเกิดความรุนแรงหรือการแพร่กระจายของเชื้อในวงกว้าง นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่าในส่วนของประเทศตะวันตกที่เริ่มกลับมามีการแพร่ระบาดในวงกว้างอีกครั้งนั้น จากข้อมูลพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศมีการปฏิเสธการฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดการกลับมาระบาดในวงกว้างอีกครั้ง

ขณะที่ความรุนแรงของสายพันธุ์โอมิครอนนั้น ยังต้องรอการยืนยันจาก WHO อีกครั้ง ซึ่งตนยังมีความเชื่อมั่นและมีมุมมองในเชิงบวกในตัวนักวิทยาศาสตร์ และผู้ผลิตวัคซีน ที่มีการเดินหน้าพัฒนาวัคซีนและยาอย่างต่อเนื่องทันที โดยไม่ได้หยุดแม้มีการผลิตวัคซีนออกมาสำเร็จแล้ว

 

โดยได้มีการไปตั้งศูนย์วิจัยในแอฟฟริกาในระยะหนึ่งแล้วซึ่งนานพอสมควร ถือเป็นการปฎิบัติการเชิงรุก ขณะเดียวกันก็มียาออกมาจากหลายๆผู้ผลิต เพื่อบรรเทาความรุนแรงของเชื้อ รวมถึงประเทศไทยก็มีการสำรองยาและวัคซีนไว้อย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้น ตนยังมีมุมมองในเชิงบวกอยู่มาก เพราะทางวิทยาศาสตร์ก็มีการปรับตัว และทางประชาชนก็มีการปรับตัวเช่นกัน