วันนี้ (13 ธ.ค. 2564) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS โดย ณ เวลา 10:01 น. อยู่ที่ระดับ 3.48 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือ + 7.40% โดยราคาหุ้น JAS ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยปรับขึ้นมา 3 วันรวม 16% จากราคาปิดเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2564 ซึ่งอยู่ที่ 3.00 บาท
และ ณ เวลา 11.17 น. วันนี้หุ้น JAS เคลื่อนไหวอยู่ที่ 3.36 บาท ปรับเพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือ +3.70% มูลค่าการซื้อขาย 1,088 ล้านบาท เทียบจากราคาปิดเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 64 ซึ่งอยู่ที่ 3.24 บาท ราคาสูงสุด 3.28 บาท และต่ำสุด 3.08 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,195 ล้านบาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ราคาหุ้น บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ที่ปรับขึ้นน่าจะมาจากการเก็งกำไร 3 ประเด็น 1.ความเป็นไปได้ของการควบรวมกิจการ 2. ความคืบหน้าการยุติข้อพิพาทกับ บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ (NT) ) ยอดหนี้คงค้างประมาณ 2,518 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย 7.5%) (JAS ชนะคดีฯ) และ 3.ได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าเงินลงทุนในบริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ( JAS ถือหุ้นอยู่ 32.80%) ตามราคาทุนเทียบกับราคาตลาดที่ปรับขึ้นนับจากต้นปีจาก 1.89 บาท เป็น 118 บาท (+ 6143% )
หากพิจารณาการปรับตัวของราคาหุ้น JTS ล่าสุด (9 ธ.ค.64) ปรับขึ้น +20% และ JAS ปรับขึ้น +5% มองว่าการที่ราคาหุ้น JAS ปรับขึ้น 1 ใน 4 เมื่อเทียบกับการปรับตัวของราคาหุ้น JTS สะท้อนความมั่นใจต่อการเปลี่ยนแปลงปัจจัยพื้นฐาน JTS ในการ Transform Business จากธุรกิจ Turnkey Project สู่ธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ (Bitcoin mining) เพียง 25%
ขณะที่มองว่าธุรกิจใหม่ของ JTS เป็นช่วงเริ่มต้นและต้องการใช้เงินเพื่อขยายการลงทุนในปี 65 เบื้องต้นผู้บริหาร JTS ระบุถึงทางเลือกของเงินลงทุนจะมาจาก 1.การออกหุ้นกู้ และ 2.เงินสนับสนุนจาก JAS ผ่านการขาย asset เพิ่มเติมใน JASIF จึงมองว่าทางเลือกเงินทุนข้อ 2 อาจเป็นประเด็นบวกต่อราคาหุ้น JAS ในระยะถัดไป
ผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 คาดว่าจะมีผลขาดทุนลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีผลขาดทุนอยู่ที่ 745 ล้านบาท แต่แย่กว่าไตรมาสก่อน ส่วนผลการดำเนินงานตามปัจจัยพื้นฐาน JAS คาดว่าปี 2565-66 จะขาดทุนต่อเนื่อง ยังคงคำแนะนำ Neutral