ดาวโจนส์พุ่งกว่า 194 จุด แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน - แบงก์

23 พ.ย. 2564 | 23:28 น.

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันอังคาร (23พ.ย.) เพิ่มขึ้น 194.55 จุด แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันกลับมาปรับขึ้นอีกครั้ง รวมไปถึงแรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มแบงก์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 194.55 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 35,813.80 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 7.76 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 4,690.70 จุด และดัชนีแนสแด็กปรับตัว ลง 79.62 จุด หรือ 0.50% ปิดที่ 15,775.14 จุด

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวานนี้ (23 พ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมัน WTI ทะยานขึ้นกว่า 2% ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้สร้างแรงกดดันต่อกลุ่มเทคโนโลยี และเป็นปัจจัยฉุดดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ

 

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน WTI โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.63% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 2.10% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 6.36% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 3.05% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 2.63%

 

หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.648% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2.64% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 2.51% หุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 2.39% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ บวก 2.56%
 

 

อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้ฉุดหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง โดยหุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ (เฟซบุ๊ก) ร่วงลง 1.1% หุ้นเทสลา ดิ่งลง 4.14% หุ้นอินเทล ร่วงลง 1.46% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 0.63% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.36%  หุ้น Zoom Video Communications ซึ่งเป็นผู้ให้บริการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วงลง 14.71% หลังจาก Zoom คาดการณ์ว่า รายได้ของบริษัทอาจชะลอตัวลงในวันข้างหน้า 

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ไอเอชเอส มาร์กิตรายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ย.ของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 59.1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 58.4 ในเดือนต.ค. แต่ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนพ.ย.อยู่ที่ 57.0 และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 58.7 ในเดือนต.ค.
 


ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2564 (ประมาณการครั้งที่ 2), ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค. รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนต.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 2-3 พ.ย.

 

ทั้งนี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันพฤหัสบดีที่ 25 พ.ย. เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) และจะเปิดทำการซื้อขายเพียงครึ่งวันในวันศุกร์ที่ 26 พ.ย.