JP เริ่มซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ mai 2 พ.ย. นี้

01 พ.ย. 2564 | 06:28 น.

“โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย)” พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ 2 พ.ย. นี้ ด้วยราคาไอพีโอหุ้นละ 7 บาท มูลค่าระดมทุน 805 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคา IPO ที่ 3,185 ล้านบาท เตรียมนำเงินระดมทุนใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และประชาสัมพันธ์ตราสินค้าของบริษัท

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เปิดเผยว่า บริษัท โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ภายใต้กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “JP”

 

สำหรับ JP เป็นผู้พัฒนา ผลิตและจําหน่ายยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาสินค้า การคิดค้นและพัฒนาสูตร การขอทะเบียนตำรับยาหรือการจดแจ้งเลขสารบบอาหารของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ตลอดจนการผลิตและการควบคุมการผลิตที่ได้คุณภาพ ทั้งการรับจ้างผลิตและจำหน่ายภายใต้เครื่องหมายการค้าของลูกค้า (OEM) และภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท (Own Brand) 

JP เริ่มซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ mai 2 พ.ย. นี้

ขณะเดียวกัน มีสินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้าของบริษัท 4 ตราสินค้า ได้แก่ COX™, JSP™, EVITON™ และ สุภาพโอสถ™ นอกจากนี้ บริษัทยังมีการผลิตผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ทำความสะอาด (ซึ่งเริ่มผลิตและจำหน่ายตั้งแต่ปี 2563) และกลุ่มผลิตภัณฑ์ซื้อมาขายไป โดยในปี 2563 บริษัทมีรายได้จากการขายแบ่งตามกลุ่มสินค้า OEM : สินค้า Own Brand : กลุ่มอื่นๆ คิดเป็น 55 : 21 : 24 ตามลำดับ ทั้งนี้บริษัทมีการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่ ร้านค้าสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ทีมขายของบริษัท ตัวแทนจำหน่าย TV Shopping และช่องทางการขายออนไลน์ 

 

ทั้งนี้ มีทุนชำระแล้ว 227.50 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 340 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 115 ล้านหุ้น เสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์และผู้ลงทุนสถาบัน จำนวนไม่เกิน 113.75 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท จำนวนไม่เกิน 1.25 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 21, 25-26 ตุลาคม 2564 ในราคาหุ้นละ 7 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน805 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,185 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 100 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 กรกฎาคม 2563 – 30 มิถุนายน 2564) ซึ่งเท่ากับ 31.85 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.07 บาท โดยมีบริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด และบริษัทสยาม อัลฟา แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

 

นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JP กล่าวว่า กลุ่มครอบครัวมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจยาและสมุนไพรมากว่า 67 ปี จนถึงปัจจุบันเป็นผู้บริหารรุ่นที่ 3 บริษัทมุ่งมั่นเป็นบริษัทชั้นนำด้านการวิจัย ผลิต และจัดจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ และอาหารเสริม ทั้งนี้ มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนในโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ พัฒนาและประชาสัมพันธ์ตราสินค้าของบริษัท (Own Brand) ปรับปรุงและขยายโรงงานทั้งที่กรุงเทพและลำพูน ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงินและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

 

ขณะที่ JP มีผู้ถือหุ้นหลัง IPO 2 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มครอบครัวแดงประเสริฐถือหุ้น 70.33% กองทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุนสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีก้าวไกลไปด้วยกัน 4.18% และบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองต่างๆ ตามกฎหมายและข้อบังคับบริษัท