ดาวโจนส์ปิดบวก 64 จุด นักลงทุนจับตาผลประกอบการ บ.กลุ่มเทคโนโลยีสัปดาห์นี้

25 ต.ค. 2564 | 23:45 น.

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 35,741.15 จุด เพิ่มขึ้น 64.13 จุด นักลงทุนจับตาผลประกอบการบริษัทขนาดใหญ่กลุ่มเทคโนโลยีสัปดาห์นี้

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.)  ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 64.13 จุด ได้ปัจจัยบวกจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเฟซบุ๊กและอัลฟาเบท

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,741.15 จุด เพิ่มขึ้น 64.13 จุด หรือ + 0.18%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,566.48 จุด เพิ่มขึ้น 21.58 จุด หรือ +0.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,226.71 จุด เพิ่มขึ้น 136.51 จุด หรือ + 0.90%

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้น 2.11% โ

ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 1.44% หลังจากราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นทะลุระดับ 85 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ 

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มตัวขึ้น โดยหุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก(จีอี) เพิ่มขึ้น 1.19% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.78% หุ้น 3M บวก 0.88%

หุ้นเทสลา เพิ่มขึ้น 12.66% ปิดตลาดที่ระดับ 1,024.86 ดอลลาร์ ส่งผลให้เทสลากลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ขานรับข่าวที่ว่า บริษัทเฮิร์ซ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถยนต์เช่ารายใหญ่ของโลก ได้สั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลาจำนวนมากถึง 100,000 คัน

คำสั่งซื้อดังกล่าวถือเป็นคำสั่งซื้อรถยนต์ไฟฟ้าครั้งใหญ่ที่สุด และจะทำรายได้ให้แก่เทสลาถึง 4.2 พันล้านดอลลาร์ โดยภายใต้ข้อตกลงนี้ เทสลาจะส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าให้แก่เฮิร์ซภายในสิ้นปี 2565

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่ในกลุ่มเทคโนโลยีในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ เฟซบุ๊ก อัลฟาเบท ไมโครซอฟท์ แอมะซอน และแอปเปิล ขณะที่บริษัทแคทเธอร์พิลลาร์ โคคา-โคลา โบอิ้ง และแมคโดนัลด์ มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการเช่นกัน

ข้อมูลจาก Refinitiv ระบุว่า บริษัทจำนวน 117 แห่งในดัชนี S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 3 แล้ว โดย 84% ในจำนวนนี้มีผลประกอบการที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ และนักวิเคราะห์คาดว่าบริษัทจดทะเบียนจะมีการขยายตัวของกำไรในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นถึง 35%

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ดัชนี Chicago Fed National Activity Index (CFNAI) ปรับตัวลงสู่ระดับ -0.13 ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ +0.35 จากระดับ +0.05 ในเดือนส.ค. โดยดัชนีได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของการผลิตในภาคอุตสาหกรรม
          
ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี/เคสชิลเลอร์, ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จาก Conference Board, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2564 (ประมาณการเบื้องต้น), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ย., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน