คัดหุ้น Top pick ธีม"คลายล็อก-ลดเคอร์ฟิว" สะสมรอจังหวะเปิดประเทศ

15 ต.ค. 2564 | 05:03 น.

4 โบรกฯ คัดหุ้น Top pick ธีม"คลายล็อก- ลดเคอร์ฟิว" มีอัพไซด์ให้ลงทุน หลังมติ ศบค.สั่งมีผล 16 ตุลาคมนี้ หนุนเปิดประเทศ

จากกรณีมติที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม (14 ต.ค.) ได้ผ่อนคลายมาตรการและลดเคอร์ฟิว โดยลดจำนวนจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มเหลือ 23 จังหวัด จากเดิม 29 จังหวัด ลดเวลาเคอร์ฟิวเป็น 23.00-03.00 น. จากเดิม 22.00-04.00 น. เริ่ม 16 ต.ค. 64 

มติสำคัญ มีดังนี้

  • 1) ปรับลดพื้ที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเป็น 23 จังหวัด จาก 29 จังหวัด โดยจังหวัดที่จะไม่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้มแล้ว ได้แก่ สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี เพชรบูรณ์ สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี และนครราชสีมา แต่จังหวัดที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ได้แก่ จันทบุรี นครศรีธรรมราช
  • 2) ปรับเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) เป็น 23.00 น. – 03.00 น. จากเดิม 22.00 น. –04.00 น.
  • 3) ปรับเวลาเปิดกิจการ/กิจกรรมต่าง ๆ ตามกำหนด จาก 21.00 น. เป็น 22.00 น. ได้แก่ธุรกิจโรงภาพยนตร์หรือฉายภาพยนตร์ ร้านอาหาร โรงละคร สนามกีฬาทุกประเภท สวนสาธารณะ ศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้า
  • 4) ปรับความจุของบริการขนส่งสาธารณะเป็นแล้วแต่ความเหมาะสม โดยให้กระทรวงคมนาคมกำกับดูแล จากเดิมกำหนด 75%
  • 5) เปิดบริการจัดประชุมและจัดงานตามประเพณีนิยมได้แต่จำกัดจำนวนคนไม่ เกิน 500 คน เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล อย่างน้อย 1 เมตร จัดเลี้ยงอาหารแบบแยกชุด กำหนดเวลาประชุมไม่เกินช่วงละ 2ชั่วโมง

บริษัทหลักทรัพย์ ( บล.)เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) มองว่ามติ ศบค.ที่คลายล็อกกิจการมากขึ้นช่วยหนุนหุ้นในธีมเปิดเมือง โดยเฉพาะหุ้นที่ราคายังปรับขึ้นไม่มากและคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์รอบล่าสุด  เลือก top picks 4 ตัว ได้แก่

1) BEM (ซื้อ/เป้า 10.50 บาท) คาดการทยอยผ่อนคลายมาตรการแผนการเปิดประเทศจะช่วยหนุนการเดินทางเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อทั้งปริมาณผู้ใช้ทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้า ทั้งประเมินจำนวนผู้ใช้บริการโดยรวมมีโอกาสกลับสู่ระดับปกติใน Q1/65

2) CPALL (ซื้อ/เป้ า 67.00 บาท) คาด traffic ที่เข้ามาในร้านสะดวกซื้อใน Q4/ 64จะฟื้วตัว จากการคลายมาตรการควบคุมโควิด ทั้งการปรับลดระยะเวลาเคอร์ฟิว และการเปิดประเทศ

3) PLANB (ซื้อ/เป้า 7.20 บาท) ได้ประโยชน์จากการเริ่มคลายเคอร์ฟิ ว เนื่องจากมี media network ครอบคลุมมากที่สุด การทีประชาชนกลับมาใช้ ชีวิตนอกบ้านตามปกติ ส่งผลกลุ่ม FMCG กลับมาใช้ งบโฆษณาในสื่อ OOH มากขึ้นอีกทั้ง Q4/21จะเป็น high season ของกลุ่มสื่อ OOH และเป็นโค้งสุดท้ายของการใช้งบโฆษณาของปี 2021E เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ

4) MAJOR (Consensus 25.50 บาท) จากโปรแกรมภาพยนตร์ที่น่าสนใจใน 4Q21E เช่น No Time to Die, Shang-Chi and The Legend of The Ten Rings, Fast and Furious, ฯลฯ การลดเวลาเคอร์ฟิวช่วยทำให้รอบฉายภาพยนตร์เพิ่มขึ้น ซึ่งเรามองว่าเวลาช่วงค่ำเป็ น prime time ของผู้ชมภาพยนตร์หลังเลิกงาน


คัดหุ้น Top pick ธีม"คลายล็อก-ลดเคอร์ฟิว" สะสมรอจังหวะเปิดประเทศ

บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS ) มองว่าหุ้นที่ยังมีโอกาสเก็งกำไรระยะสั้น เลือก 4 หุ้นเด่นคือ  AWC, ERW, AOT และ MINT เนื่องจากหุ้นเหล่านี้ยังซื้อขายต่ำกว่าระดับก่อนโควิด-19 ระบาด พร้อมให้มุมมองระมัดระวังต่อ AAV และ CENTEL เนื่องจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงสูงกว่าระดับก่อนโควิด-19 ระบาด สะท้อนให้เห็นมุมมองเชิงบวกของตลาดได้สะท้อนในราคาหุ้นไปมากแล้ว

 

ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด( มหาชน ) คาดว่าศบค.จะยกเลิกเคอร์ฟิวในเดือน พฤศจิกายนนี้เพื่อรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว เป็นบวกต่อ CPALL CPN CRC HMPRO MAJOR BEM M ZEN AU OISHI กลุ่มโรงแรมชอบ MINT SHR VRANDA

 

ฝ่ายวิจัยบล.ทิสโก้ จำกัด มองว่า จะส่งผลดีกับหุ้นธีม “Re-opening” ที่เราชอบ AOT (เป้าพื้นฐาน 63 บาท), ADVANC (205 บาท), BDMS (26 บาท), BEM (9.8 บาท), BTS (10.3 บาท), CPALL (70 บาท), CPN (61 บาท), CRC (40 บาท), MINT (35 บาท), ROJNA (7.7 บาท), SPA (10.4 บาท), WHA (3.7 บาท) MTC (68 บาท) นอกจากนี้ โมเมนตัมเศรษฐกิจที่คาดว่าจะฟื้นตัว คาดจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มการเงิน ชอบ BBL (158 บาท), KBANK (145 บาท), KKP (72 บาท)และ TTB (1.51 บาท)