ตลาดหุ้นไทยวันที่ 6 ตุลาคม 2564 เคลื่อนไหวในแดนบวก รับแรงซื้อจากราคาน้ำมันดิบโลกปรับขึ้นแตะ78.93 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบ 7 ปี หลังโอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตตามแผนเดิมรวมถึงราคาถ่านหินยังพุ่งต่อ และมีความคาดหวังการเปิดประเทศหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศลดลงต่อเนื่องต่ำกว่า 10,000 รายต่อวัน แต่ช่วงบ่ายมีแรงขายตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค จากความกังวลทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) สหรัฐ ปรับเพิ่มขึ้นแตะจุดสูงสุดใหม่(นิวไฮ) ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,619.48 จุด ลดลง 4.76 จุด หรือเปลี่ยนแปลง 0.29% ด้วยมูลค่าซื้อขาย97,659.10 ล้านบาท ขณะที่ ดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,631.81 จุด และต่ำสุดอยู่ที่ 1,617.24 จุด
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
BANPU ปิดที่ 14.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มูลค่าการซื้อขาย 6,153.15 ล้านบาท
SVT ปิดที่ 4.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.06 บาท มูลค่าการซื้อขาย 5,203.82 ล้านบาท
TRUE ปิดที่ 4.06 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 3,312.48 ล้านบาท
SCC ปิดที่ 395.00 บาท ลดลง 7.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 3,146.33 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 136.00 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,852.37 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่กดดัชนีมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
DELTA ปิดที่ 440.00 บาท ลดลง 12.00 บาท มีผลต่อดัชนี -1.2981 จุด
CPALL ปิดที่ 62.50 บาท ลดลง 1.25 บาท มีผลต่อดัชนี -0.9738 จุด
GULF ปิดที่ 43.75 บาท ลดลง 0.75 บาท มีผลต่อดัชนี -0.7632 จุด
SCC ปิดที่ 395.00 บาท ลดลง 7.00 บาท มีผลต่อดัชนี -0.7285 จุด
AOT ปิดที่ 63.75 บาท ลดลง 0.50 บาท มีผลต่อดัชนี -0.6195 จุด