กรุงไทยและเครือข่ายพันธมิตรส่งแคมเปญ “ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ”

03 ก.ย. 2564 | 08:17 น.

กรุงไทยและเครือข่ายพันธมิตรส่งแคมเปญ “ “Go Travel Go Wellness: Travel and Health Redefined ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ” -รองรับการเปิดประเทศ พร้อมสนับสนุนสินเชื่อฟื้นฟูพลิกฟื้นโรงแรม นำรองอันดามัน-อ่าวไทย ก่อนขยายพื้นที่ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคเหนือ

 

กรุงไทยและเครือข่ายพันธมิตรส่งแคมเปญ “ “Go Travel Go Wellness: Travel and Health Redefined  ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ” -รองรับการเปิดประเทศ พร้อมสนับสนุนสินเชื่อฟื้นฟูพลิกฟื้นผู้ประกอบการโรงแรมมุ่งเป็นผู้ให้บริการด้าน Wellness นำร่องอันดามัน-อ่าวไทย ก่อนขยายพื้นที่ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคเหนือเดือนพฤศจิกายน 2564     

 

ธนาคารกรุงไทย จับมือเครือข่ายพันธมิตร ประกอบด้วย ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กฎบัตรไทย  สมาคมส่งเสริมสุขภาพไทย สมาคมโรงแรมที่พักส่งเสริมสุขภาพอันดามันและอ่าวไทย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  สมาพันธ์สมาคมสปาแอนด์เวลเนสไทย  และบริษัท บี-เฮลธี เอเชีย จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำในการให้บริการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี Digital Health Platform ฯ

 ร่วมพลิกวิกฤตโควิดให้เป็นโอกาสของผู้ประกอบการโรงแรมด้วย Krungthai Package for Wellness Hub สนับสนุนสินเชื่อและบริการทางการเงินสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มุ่งเป็นผู้ให้บริการส่งเสริมสุขภาพ(Wellness Provider) โดยนำร่องภูเก็ต กระบี่ พังงา และสมุยซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักจากโควิด

 

โครงการความร่วมมือนี้เกิดขึ้นจากการที่หลายภาคส่วนได้เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางตลาดด้านการดูแลสุขภาพทั่วโลก ที่กำลังมุ่งไปสู่การดูแลสุขภาพเชิงส่งเสริมและป้องกัน (Health Promotion and Prevention) เพื่อลดโอกาสของความเจ็บป่วย   ซึ่งประเทศไทยมีจุดแข็งหลายประการ ทั้งความสวยงามของธรรมชาติ มาตรฐานการให้บริการ ของที่พักโรงแรม และความล้ำลึกของศาสตร์แพทย์แผนไทย

 

 

 

 

ดังนั้น จึงเกิดแนวคิดในการสร้างนวัตกรรมการ ให้บริการส่งเสริมสุขภาพที่ผสมผสานความโดดเด่นของไทยในอุตสาหกรรมการบริการ (Hospitality Industry) เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Holistic Approach) ที่ส่งเสริมพัฒนาผู้เข้ารับบริการ ทั้งทางร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณ อาหาร และการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

สำหรับนวัตกรรมให้บริการด้านสุขภาพดังกล่าวเป็นการออกแบบแพคเกจดูแลสุขภาพที่ผสมผสาน ระหว่างการให้คำปรึกษาของทีมที่ปรึกษา ด้านสุขภาพมืออาชีพ (Health & Wellness Consultants) ทั้งชาวไทยและจากต่างประเทศอย่างน้อย 50 คน จากหลากหลายสาขา รวมถึงแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์

 

ผ่าน B-Healthy Digital Health Platform ซึ่งเป็น Data-Driven Modern Digital Service ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อจุดประสงค์นี้โดยเฉพาะ โดยความร่วมมือระหว่างบริษัท บี-เฮลธี เอเชีย จำกัด และ เครือข่ายพันธมิตร เพื่อเป็นเครื่องมือให้ทุกภาค ส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้ระบบนิเวศน์สุขภาพ (Wellness Ecosystem) ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลด้านสุขภาพ (Health Data) ตัวระบบมีทั้ง B-Healthy Wellness Marketplace

 

สำหรับฝั่งผู้ให้บริการ  ได้แก่ Health Coach และผู้ประกอบการโรงแรม และ Mobile Application สำหรับฝั่งผู้ซื้อแพคเกจ โดยทีม Coach สามารถออกแบบโปรแกรมการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับรายบุคคล ส่วนการติดตามผลสามารถทำได้ ทั้งการวีดีโอคอลให้คำปรึกษาออนไลน์ การตอบแบบสอบถามสุขภาพ และการบันทึกสัญญาณชีพต่างๆ แบบเรียลไทม์ผ่าน B-Healthy Life Cam ซึ่งใช้เทคโนโลยี AI วัดค่าสัญญาณชีพได้ภายในไม่กี่วินาที เพียงแค่มองกล้องในสมาร์ทโฟน

นอกจากนี้ เมื่อผู้รับบริการเดินทางไปยัง Wellness Hotel ในพื้นที่นำร่องอันดามันและอ่าวไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแพคเกจ ก็จะได้รับการดูแลจากผู้เชี่ยวชาญ ด้านต่างๆ อย่างใกล้ชิด ภายใต้บรรยากาศอันผ่อนคลาย ในที่พักซึ่งได้รับการรับรอง SHA+

 เหตุผลในการริเริ่มโครงการนี้ในพื้นที่นำร่องภูเก็ต กระบี่ พังงา และสมุย เนื่องจาก ผู้ประกอบการ ในพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการปิดประเทศในช่วงโควิด ประกอบกับรัฐบาลมีโครงการ Sandbox อยู่แล้ว ทำให้ง่ายต่อการขยายบริการเพิ่มเติม ภายใต้สภาวะแวดล้อม ที่ปลอดภัย  โรงแรมที่พักได้รับมาตรฐาน SHA+ และ Wellness Certification ที่สำคัญ ผู้บริหารโรงแรมกว่า 120 โรงในพื้นที่นำร่องได้มีการเตรียมความพร้อมด้านองค์ความรู้ในการเป็น Wellness Provider มาแล้วระยะหนึ่ง จากการเข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้บริหารเพื่อการเปลี่ยนโรงแรม เป็นโรงแรมส่งเสริมสุขภาพ  จึงทำให้เป็นพื้นที่ที่มีความพร้อมสูงในการดำเนินงาน

 

กลุ่มเป้าหมายในโครงการระยะที่ 1 เน้นไปที่กลุ่มคนไทยวัยทำงานซึ่งต้อง work from home เป็นเวลานาน กลุ่มผู้สูงวัย (Active Aging) และกลุ่มชาวต่างชาติที่พำนักอยู่ในไทย (Expats) เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความต้องการทั้งในด้านการเดินทางท่องเที่ยวและแก้ปัญหาด้านสุขภาพไปพร้อมกัน

 

ปัจจุบัน กฎบัตรไทยและเครือข่ายพันธมิตร ได้จัดตั้ง Wellness Program for Thai Wellness ซึ่งต้องการพัฒนากิจการเวลเนสมูลค่าสูง ที่มียอดขายมากกว่า 1 พันล้านบาท ต่อปี โดยเตรียมการ ขยายพื้นที่บริการ ในภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคเหนือ ซึ่งจะเริ่มในเดือน พฤศจิกายน 2564   

 

สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมที่สนใจเข้าร่วมโครงการ Krungthai Package for Wellness Hub สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่ สอบถามข้อมูลติดต่อ Krungthai Contact Center 02-111-1111