คลัง ยังไม่นำ “ช็อปดีมีคืน” มาใช้ เร่งเชื่อมคนละครึ่งกับฟู้ดเดลิเวอรี่

29 ก.ค. 2564 | 06:25 น.

คลัง เผย “ช็อปดีมีคืน” ยังไม่เหมาะนำมาใช้ช่วงที่การแพร่ระบาดโควิดยังรุนแรง พร้อมเร่งเชื่อมระบบผู้ให้บริการแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ เพื่อเพิ่มการใช้จ่าย “คนละครึ่ง” ในช่วงล็อกดาวน์ คาดได้ข้อสรุปก่อน ต.ค.นี้ ย้ำยังได้ 3,000 บ/คน เท่าเดิม

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า ในส่วนของมาตรการ “คนละครึ่ง” “ยิ่งใช้ยิ่งได้” เป็นมาตรการสำหรับการกระตุ้นการใช้จ่าย ดังนั้นอาจได้ผลในเชิงกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ดีเท่าที่ควรในช่วงนี้ เนื่องจากการสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรง ส่งผลต่อการออกมาจับจ่ายซื้อสินค้า รวมทั้งบางพื้นที่มีมาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มงวด อย่างไรก็ตามมาตรการดังกล่าวสามารถใช้ได้ถึงสิ้นปี 64 ดังนั้นจึงเชื่อว่าในช่วงไตรมาส 4 เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดดีขึ้น จะทำให้การใช้จ่ายกลับมาฟื้นตัวมากขึ้น

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผอ.สศค. ในฐานะโฆษก ก.คลัง

ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังยังอยู่ระหว่างเชื่อมโยงระบบการใช้จ่ายในมาตรการ “คนละครึ่ง” กับผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่ ให้สามารถตรวจสอบการทำธุรกรรม เพื่อป้องกันนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยจะมีข้อสรุปก่อนเดือน ต.ค.นี้  ทั้งนี้การเชื่อมระบบดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้จ่าย และสอดรับกับมาตรการควบคุมการเดินทาง พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาในการเพิ่มวงเงินค่าใช้จ่ายในโครงการ “คนละครึ่ง” โดยวงเงินยังอยู่ที่ 3,000 บาทต่อคน/สิทธิ เหมือนเดิม

ขณะที่มาตรการ “ช็อปดีมีคืน” ยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งมาตรการรัฐที่สามารถช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้อย่างดี โดยพบว่าหลังสิ้นสุดมาตรการมีผู้ยื่นขอคืนภาษีมากว่า 9 แสนคน ทั้งนี้มาตรการ “ช็อปดีมีคืน” ถือเป็นมาตรการเพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่สถานการณ์ใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ ดังนั้น จึงอาจยังไม่เหมาะสมหากนำมาใช้ในช่วงนี้ซึ่งยังจำกัดในเรื่องของการเดินทาง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการเยียวยา ให้กับผู้ประกอบการและผู้อยู่ในระบบประกันสังคม ตามมาตรา 33 , 39 และ 40 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 13 จังหวัดแล้ว ซึ่งจะปิดให้ลงทะเบียนสมัครเป็นผู้ประกันตนภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ และจะเริ่มทยอยโอนเงินเยียวยาให้ตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.นี้ เป็นต้นไป