“คืนรถจบหนี้” ทิสโก้เร่งช่วยลูกค้าผ่อนรถไม่ไหวให้มีทางออก

14 ก.ค. 2564 | 13:14 น.

ธนาคาร ทิสโก้ จัดโครงการพิเศษ “คืนรถจบหนี้” เร่งช่วยเหลือลูกหนี้เช่าซื้อ-จำนำทะเบียนรถยนต์ทั่วประเทศ ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากโควิด-19 ระลอกใหม่ หากผ่อนค่างวดไม่ไหวสามารถนำรถมาคืนได้

นายเมธา ปิงสุทธิวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ทิสโก้ จำกัด(มหาชน) หรือ TISSCO เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดตั้งโครงการพิเศษภายใต้ชื่อ “คืนรถจบหนี้” เพื่อให้ความช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าเช่าซื้อและลูกค้าจำนำทะเบียนรถยนต์ ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยจะเร่งเข้าไปช่วยเหลือในกลุ่มที่ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดต่อไปได้มีทางเลือกในการคืนรถ

เมธา ปิงสุทธิวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ทิสโก้ จำกัด(มหาชน) 

 

โดยที่ธนาคารจะเป็นผู้รับผิดชอบหรือ “ยกหนี้ให้” ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดคือ หากมีส่วนต่างผลขาดทุนจากการขายรถ ธนาคารจะไม่ดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม พร้อมระบุสถานะเป็นลูกค้า “ปิดบัญชี” และหากผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้แล้ว ในอนาคตยังมีโอกาสกลับมาทำธุรกรรมขอสินเชื่อได้ใหม่ และสร้างประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมต่อไปได้  

 

“การให้ความช่วยเหลือลูกค้าของธนาคาร จะแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มที่ได้รับผลกระทบระดับเล็กน้อย ระดับปานกลาง และระดับรุนแรง โดยกลุ่มที่ได้รับผลกระทบเล็กน้อยถึงปานกลาง การช่วยเหลือจะเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ปรับลดค่างวด ขยายเวลาผ่อนชำระ ส่วนในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบรุนแรง จะยกระดับการให้ความช่วยเหลือผ่านโครงการ คืนรถจบหนี้ ”นายเมธากล่าว

 นายเดชพินันท์ สุทัศนทรวง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส - ปฏิบัติการสินเชื่อรายย่อย ธนาคาร ทิสโก้ จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า เงื่อนไขของมาตรการ คืนรถจบหนี้ จะต้องเป็นลูกค้าตามสัญญาเช่าซื้อหรือจำนำทะเบียนรถยนต์ของธนาคารทิสโก ทั้งรถส่วนบุคคลและรถเพื่อการพาณิชย์ ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากโควิด-19 และมีสถานะไม่ค้างชำระเกิน 90 วัน ก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563

เดชพินันท์ สุทัศนทรวง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส - ปฏิบัติการสินเชื่อรายย่อย ธนาคาร ทิสโก้ จำกัด (มหาชน)

 

การพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าแต่ละรายจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด โดยพิจารณาจากผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ รวมทั้งข้อมูลและเอกสารประกอบ ลูกค้าสามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางที่ธนาคารกำหนด ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 กันยายน 2564  

 

“โดยปกติ แม้จะคืนรถให้กับสถาบันการเงินไปแล้ว อาจจะไม่ได้ทำให้ปัญหาจบลงในทันที เพราะหลังจากสถาบันการเงินนำรถไปประมูลขายทอดตลาด กรณีเกิดผลขาดทุนขึ้นก็ยังคงเป็นภาระของลูกหนี้ตามกฎหมาย และหากลูกหนี้ไม่สามารถจัดการได้ก็อาจส่งผลเสียต่อประวัติทางการเงินต่อไป”นายเดชพินันท์กล่าว

 ดังนั้น การที่ธนาคารเข้าไปช่วยเหลือลูกค้า ผ่านโครงการพิเศษ “คืนรถจบหนี้” จะเน้นการแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งถ้าลูกค้าผ่อนค่างวดไม่ไหวสามารถนำรถมาคืนได้เลย โดยหากอยู่ในเงื่อนไขที่กำหนดธนาคารจะยกหนี้ส่วนที่เหลือให้ทั้งหมด โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่มีการฟ้องร้อง และระบุสถานะเป็นปิดบัญชี ซึ่งถือได้ว่า “จบหนี้จริง” โดยไม่มีภาระหนี้ผูกพันในระยะยาว

 

ทั้งนี้ในอนาคต หากลูกค้ามีความจำเป็นทางการเงินก็มีโอกาสกลับมาขอสินเชื่อใหม่ได้ โดยปัจจุบันมีลูกค้าที่แสดงความสนใจเข้าร่วมโครงการ รวมถึงที่ได้คืนรถให้แก่ธนาคารแล้วกว่า 400 ราย