ไขข้อข้องใจ ทำไม“ยิ่งใช้ยิ่งได้”กร่อย

30 มิ.ย. 2564 | 10:55 น.

โครงการ คนละครึ่งเฟส3 ที่มีผู้ลงทะเบียนกว่า 25.5 ล้านคน ขณะที่โครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ กลับมียอดลงทะเบียนไม่กี่แสนคน อะไรคือความแตกต่าง มาไขข้อข้องใจกัน

วันที่ 1 กรกฎาคม จะเป็นวันแรกที่โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทั้งโครงการ "คนละครึ่งเฟส3" ประชาชนผู้ลงทะเบียนกว่า 25.5 ล้านคน จะได้รับเงินงวดแรก 1,500 บาท เพื่อใช้จ่ายระหว่างเดือน กรกฎาคม-กันยายน 2564 และโครงการ "ยิ่งใช้ยิ่งได้" เริ่มให้ประชาชาชนสามารถใช้สิทธิ์ได้เช่นกัน 

 

วันที่ 21 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมาเป็นวันแรกที่กระทรวงการคลังเปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิโครงการ “ยิ่งใช้ ยิ่งได้” จำนวน 4 ล้านสิทธิ พบว่า ตั้งแต่เวลา 6.00- 22.00 น. มีผู้ลงทะเบียนเพียง 263,538 ราย โดยยังมีสิทธิคงเหลืออีกกว่า 3,736,462 สิทธิ ต่างจากการเปิดให้ลงทะเบียนในโครงการ “คนละครึ่งเฟส3” แค่เพียงวันแรกมีผู้แห่ลงทะเบียนมากกว่า 23 ล้านคน จากจำนวนสิทธิที่เปิดให้ลงทะเบียนทั้งหมด 31 ล้านคน

 

สำหรับความแตกต่างของสิทธิที่รัฐบาลสมทบให้ระหว่าง 2 โครงการนี้ โดยโครงการ “คนละครึ่งเฟส3” ผู้มีสิทธิจะได้รับ 3,000 บาท โดยรัฐฯจะโอนเงินเข้าแอป “เป๋าตัง” วันละ 150 บาทจนครบ 3,000 บาท ลักษณะการใช้สิทธิ คือ จ่ายแบบโคเพล์ ประชาชนจ่ายครึ่งนึง รัฐบาลออกให้ครึ่งนึง ในการซื้อสินค้าและบริการในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งร้านทั้งหมดเป็นร้านค้าและร้านอาหารขนาดเล็ก ชนิดที่เรียกได้ว่า เดินไปทางไหนก็หาเจอ

 

ขณะที่โครงการ“ยิ่งใช้ยิ่งได้” รัฐบาลจะให้เงินคืนสูงสุดถึง 7,000 บาท ในรูปแบบอีวอเชอร์ ไม่สามารถแลกออกมาเป็นเงินสดได้ และยังต้องใช้อีวอเชอร์ภายในสิ้นปี 2564 ซึ่งหากจะได้เงินคืนสูงสุดตามสิทธิจะต้องใช้มียอดจ่ายสะสมสูงสุดถึง 60,000 บาท ผ่านร้านค้าขนาดใหญ่ที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT

แม้ขณะนี้จะมีร้านค้าเข้าร่วมมากกว่า 30,000 ราย แต่มีเงื่อนไขสำคัญ ที่หลายคนมองว่าเป็นข้อจำกัดของโครงการ คือ วงเงินการใช้จ่ายสำหรับนำมาคำนวณเพื่อรับเงินคืน จะอยู่ที่ 5,000 บาทต่อวันเท่านั้น ซึ่งหากต้องการได้รับอีวอเชอร์สูงสุดตามสิทธิ 7,000 บาท เท่ากับว่าจะต้องออกจากบ้านไปใช้จ่ายขั้นตํ่าถึง 12 วัน ในสถานการณ์ที่การระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังพุ่งสูงต่อเนื่อง

 

น.ส.กุลยา ตันติเตมิท

 

อย่างไรก็ตาม น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ได้อธิบายถึงสาเหตุที่ต้องจำกัดวงเงินใช้จ่าย สำหรับนำมาคำนวณรับเงินคืนที่ 5,000 บาท/วันนั้น เพื่อไม่ให้การใช้จ่ายกระจุกตัวอยู่ที่ร้านค้าใดร้านค้าหนึ่ง รวมทั้งมีผู้ให้ความสนใจลงทะเบียนโครงการ “คนละครึ่งเฟส3” มากกว่า เพราะเป็นโครงการต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี63 และมีร้านค้ารองรับจำนวนมาก

 

ทั้งนี้กระทรวงการคลังยังคงเปิดให้ลงทะเบียน “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. ทุกวัน ผ่าน www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com และแอป “เป๋าตัง” ไปจนกว่าจะครบ 4 ล้านสิทธิ และเปิดรับสมัครร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการต่อเนื่อง 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,690 วันที่ 24 - 26 มิถุนายน พ.ศ. 2564

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: