แบงก์กรุงเทพ -กอบศักดิ์ ภูตระกูล หวังฉีดวัคซีนฟื้นเศรษฐกิจไทยปลายปีนี้

16 มิ.ย. 2564 | 20:29 น.

กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประเมินเศรษฐกิจไทยมีโอกาสฟื้นตัวปลายปีนี้ ถ้าสามารถรักษาระดับการฉีดวัคซีนได้ 5แสนโดสต่อวัน

แบงก์กรุงเทพ  -กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประเมินเศรษฐกิจไทยฟื้นปลายปีนี้ ถ้าสามารถรักษาระดับการฉีดวัคซีนได้ 5แสนโดสต่อวัน คาดเห็นจีดีพีขยับ 1-2% ชี้ 3ปัจจัยเสี่ยงโลกและไทยต้องเผชิญหลังโควิด-19 “ ดิจิทัล ดิสรัปชั่น-สงครามการค้า และภูมิรัฐศาสตร์”

แบงก์กรุงเทพ  -กอบศักดิ์ ภูตระกูล หวังฉีดวัคซีนฟื้นเศรษฐกิจไทยปลายปีนี้

นายกอบศักดิ์  ภูตระกูล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวถึง “มุมมองการเติบโตของเศรษฐกิจไทยยุคใหม่ หลังโควิด-19 หรือ Post Covid Era"  โดยระบุว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยมีโอกาสจะกลับมาฟื้นตัวในปลายปีนี้ ถ้าสามารถรักษาระดับการฉีดวัคซีนได้วันละ 500,000โดส แต่จะเห็นอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ(จีดีพี)ที่ระดับ 1-2%เท่านั้น   เนื่องเพราะการระบาดของโควิด-19 เศรษฐกิจไทยถูกกัดกร่อนและเกิดความสูญเสียไปมาก

มองไปข้างหน้ายังมีความท้าทายในอนาคตระยะยาว ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ทุกคนต้องเผชิญรวมทั้งคนไทย ได้แก่  1.  ดิจิทัล ดิสรัปชัน (Digital Disruption)ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการ้เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการของนวตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆและผลงานวิจัย  โดยแนวโน้มภายหลังการระบาดของโควิด-19 แล้ว “ดิจิทัล  ดิสรัปชั่น”จะกลับมารุนแรงกว่าเดิมและเฟื่องฟูเป็นพิเศษและจะทำให้เกิดการแข่งขันสูงขึ้นในทุกวงการธุรกิจ  ซึ่งเห็นได้จากพัฒนาการบริการออนไลน์  รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า หรือรถอีวี (EV) โทรคมนาคม โดยเฉพาะประเทศไทย ในช่วงของการระบาดของโควิด-19  ภายในระยะเวลา 1ปีเศษ ได้เห็นพัฒนาการของระบบการชำระเงิน หรือระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ Cashless Society) และบริการออนไลน์มากขึ้นโดยอนาคตจะเห็นพัฒนาไปเร็วกว่านี้ 

2.ความเสี่ยงจากสงครามการค้า (Trade war) แนวโน้มจะเดินหน้าต่อเนื่อง เห็นได้จากพัฒนาการในรูปแบบใหม่ๆ อาทิ  การสั่งแบนสินค้าหรือบริษัท   หรือเวทีการประชุมผู้นำประเทศอุตสาหกรรม(G7) ที่ผ่านมา และ3.ความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์(Geopolitics)

“ เหล่านี้เป็นปัญหาที่เราเคยเผชิญมาแล้วก่อนเกิดโควิด แต่จะกลับมาเป็นทั้งโอกาสและความเสี่ยงทุกอุตสาหกรรมในระยะข้างหน้า ทั้งDisruption ที่จะกลับมาแรงและเฟื่องฟูเป็นพิเศษ เช่นเดียวกันปัญหาTrade War ที่จะเกิดการโยกย้ายธุรกิจออกจากจีนเพื่อหาแหล่งผลิตใหม่ซึ่งเป็นทั้งโอกาสที่ประเทศไทยจะเลือกใช้ประโยชน์  และความเสี่ยงด้านGeopoliticsนอกจากสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศที่พ่วงความตึงเครียดเกิดขึ้นแล้วยังมีปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมที่จะส่งผลต่อโลกและไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางของอาเซียน  จึงเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมการเพื่อก้าวยุคความปกติใหม่ (New Normal) หลังจบโควิด  โดยเฉพาะต้องการความสามารถและการใช้ประโยชน์ ทั้งระดับธุรกิจและประเทศไทย

จึงจำเป็นต้องเตรียมการให้เพียงพอเพื่อรองรับเงินลงทุนโดยตรง ขณะที่เวียดนามหรืออินโดนีเซียมีพัฒนาการก้าวหน้าอย่างมาก  และการเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมใหม่ เช่น อุตสาหกรรมเกษตร  อาหาร ไบโอ(ชีวภาพ)  อีวี และบริการต่างๆ  เพราะหากเตรียมความพร้อมไม่ดีอาจจะตายก่อน ดังนั้นจึงเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยสำหรับอนาคต”