SAWAD ปูพรมขยายฐานลูกค้าทั่วประเทศ

26 เม.ย. 2564 | 10:34 น.

SAWAD ประกาศรุกธุรกิจครบวงจร ชูจุดแข็ง มีฐานทุนและพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ปูพรมขยายฐานลูกค้าผ่าน 5 พันสาขาทั่วประเทศ ยันโควิด-19 รอบใหม่ ไม่กระทบแผนธุรกิจ

นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยว่า กลุ่มศรีสวัสดิ์ มีความพร้อมในการรุกธุรกิจครบวงจร และพร้อมรับมือกับการแข่งขันทุกรูปแบบ จากจุดแข็งของ SAWAD คือ การมีฐานทุนและพันธมิตรที่แข็งแกร่ง โดยธุรกิจ จำนำทะเบียนรถ ยนต์ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทลูกและเครือข่าย  5,000  สาขาทั่วประเทศ

ดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการ ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SAWAD

ทั้งนี้ธุรกิจจำนำทะเบียนรถจักยานยนต์ ผ่านบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด(FM) ที่ร่วมหุ้นกับธนาคาร ออมสิน  ขณะที่ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ดำเนินธุรกิจโดย บริษัทบริหารสินทรัพย์ เอส ดับบลิว พี จำกัด (SWP) มีบริษัทโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE เข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมทุนถือหุ้น 20%

 

 

ส่วนธุรกิจเช่าซื้อ ดำเนินธุรกิจภายใต้ บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด (SCAP)  ล่าสุด SCAPเข้าไปถือหุ้นบริษัทเอส ลีสซิ่ง จำกัด ซึ่งให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์สัดส่วน 90% ถือเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้กับ SCAP ในการให้บริการสินเชื่อแบบครบวงจร

“ปัจจุบัน SAWAD มีความพร้อมรับมือกับการแข่งขันทุกรูปแบบ เรามีพันธมิตรที่แข็งแกร่งในทุกธุรกิจ มีสาขารองรับการบริการร่วม 5 พันสาขา ทั่วประเทศ ฐานเงินทุนก็มีความแข็งแกร่ง นอกจากนี้ก็ยังมีรายได้อื่นๆ จากธุรกิจนายหน้าขายประกัน ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ปีนี้ถือว่าเรามีความพร้อมมากในการขยายฐานลูกค้าทั่วประเทศในทุกธุรกิจ”นางสาวดวงใจกล่าว

 

ส่วนการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ กลุ่มศรีสวัสดิ์พร้อมให้ความช่วยเหลือและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด โดยไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานหรือฐานะการเงินของบริษัทแต่อย่างใด เพราะปัจจุบันบริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีวงเงินกู้ 5,000-6,000 ล้านบาท พร้อมที่จะนำมาปล่อยกู้เสริมสภาพคล่องและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับลูกค้า อย่างไรก็ตามสำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2564  บริษัทยังมั่นใจว่าจะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ว่ารายได้และพอร์ตลูกหนี้จะเติบโต 20% 

 

ล่าสุดที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2564 ได้มีมติอนุมัติจ่ายปันผลจากผลประกอบการปี 2563และกำไรสะสม  โดยจะจ่ายเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้นมูลค่ารวม 2,472 ล้านบาท  หรือคิดเป็นอัตราที่จ่ายปันผลต่อหุ้น 1.80 บาท โดยกำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD  ที่ 5 พ.ค.2564  และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 21 พ.ค. 2564

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: