ไฟแนนซ์เข้มเช่าซื้อรถ ยอดปฏิเสธพุ่งเท่าตัว

12 มี.ค. 2564 | 22:00 น.

สมาคมเช่าซื้อคาด ภาพรวมตลาดปี 64 โต 20% ตามยอดขายรถยนต์ ที่จะมี 8 แสนคัน จากปีก่อนที่หดตัวถึง 20% เผยช่วง 3 เดือนแรกของปี ยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่งเท่าตัว ทั้งรถใหม่ รถมือสอง จากความกังวลการระบาดโควิดรอบใหม่ เหตุสถาบันการเงินเข้ม เน้นมนุษย์เงินเดือนที่มีประวัติเครดิตดี 

TMB Analytics คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ในประเทศปี 2564 จะอยู่ที่ 8.35-8.50 แสนคัน หรือขยายตัว 5.5-7.3% จากภาคการส่งออกที่ดีขึ้นและภาคเกษตรที่ทยอยฟื้นตัว โดยประเมินว่า ช่วงไตรมาสแรก ยอดขายมีทิศทางชะลอตัวลง 

เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องการระบาดของโควิด-19 เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ยอดขายจะทยอยปรับตัวเข้าสู่ระดับปกติอีกครั้ง  หลังจากปี 2563 ยอดขายรถยนต์ในประเทศหดตัวถึง 21.4% หรือ 792,146 คัน สาเหตุหลักจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวในช่วงต้นปี ประกอบกับช่วงเมษายน-มิถุนายน ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในระลอกแรก

อย่างไรก็ตาม แม้หลังผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์แล้ว จะทำให้ยอดขายรถยนต์ในภาพรวมค่อยๆ ฟื้นตัว โดยครึ่งปีหลัง หดตัวลดลงเหลือ -4.2% ซึ่งดีกว่าครึ่งปีแรกที่หดตัวกว่า -37.3% และเมื่อมาพิจารณาดูประเภทของรถยนต์พบว่า ยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์ครึ่งปีหลังมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น

นายวิสิทธิ์ พึ่งพรสวรรค์ ประธานสมาคมเช่าซื้อไทยเปิดเผยว่า บรรยากาศธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ปล่อยสินเชื่อได้น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากเดือนมกราคมตลาดได้รับผลกระทบจากการกลับมาระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่บวกกับอัตราการปฏิเสธลูกค้าที่สูงขึ้นเท่าตัว โดยรถเก่าอัตราปฏิเสธเพิ่มขึ้นเป็น 25-30% จากเดิมอยู่ที่ 15% ส่วนรถใหม่ ยอดปฏิเสธปรับเพิ่มเป็น 15-20% จากเดิมเคยอยู่ที่ 10% และทุกสถาบันการเงินหันมาเน้นกลุ่มลูกค้ามนุษย์เงินเดือนและมีประวัติเครดิตบูโรที่ดี 

สำหรับแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ภาพรวมปัจจุบันยังทรงๆตัวอยู่ที่  1.5-2.5% ของสินเชื่อรวม ซึ่งเป็นผลจากการที่สถาบันการเงินมีการพักชำระหนี้และปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยสมาชิกของสมาคมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อชะลอการเพิ่มขึ้นของยอดหนี้ค้างชำระ อย่างไรก็ตาม หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาพักหนี้แล้ว หากเศรษฐกิจหลักของประเทศยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวแนวโน้มเอ็นพีแอลอาจเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนอกจากปัจจัยเงินในกระเป๋าของผู้บริโภคแล้วผู้ประกอบการบางส่วนใช้กลยุทธ์ดาวน์ต่ำทำให้เกิดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

ส่วนภาพรวมตลาดเช่าซื้อปี 2564 นายวิสิทธิ์กล่าวว่า แนวโน้มน่าจะปรับตัวดีขึ้น โดยคาดว่า จะเติบโตที่ระดับ 10-20 % ทั้งสินเชื่อรถใหม่และสินเชื่อรถเก่า(มือสอง) ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มตามยอดขายรถยนต์ที่คาดว่า จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ถ้าเศรษฐกิจไม่เลวร้ายไปกว่าที่คาด โดยยอดขายรถยนต์จะมีจำนวน 8 แสนคันจากสิ้นปีก่อนราว 7.7 แสนคัน ซึ่งยอดขายรถยนต์ใหม่ปรับตัวลดลงราว 20% ลดลงมากกว่ารถมือสองที่มีความต้องการซื้อดีขึ้น เพราะราคาเฉลี่ย 3 แสนบาทต่อคัน อัตราผ่อนชำระ 4,000-5,000 บาท/เดือน 

“ปีนี้ยอดขายรถน่าจะแตะ 8 แสนคัน จากปีก่อนอยู่ที่กว่า 7 แสนคัน ซึ่งส่วนใหญ่ 80% ยังมีการใช้
สินเชื่อเช่าซื้อ ทำให้ปีนี้โอกาสของสินเชื่อเช่าซื้อทั้งรถใหม่และรถเก่า ภาพรวมน่าจะเติบโต 10-20% แต่ถ้ามีการระบาดของโควิดรอบ 3 ก็ต้องมาพิจารณากันใหม่” นายวิสิทธิ์กล่าว

ขณะที่ภาพรวมสินเชื่อเช่าซื้อในปี 2562 อยู่ที่จำนวน 2.2 ล้านล้านบาท แต่ปี 2563 ลดต่ำลง อาจได้อานิสงส์ของธุรกิจคาร์ฟอร์แคช ทำให้ยอดรวม พอร์ตการให้สินเชื่ออาจต่ำกว่า 2.2 ล้านล้านบาทเล็กน้อย

ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ทิศทางตลาดรถยนต์ทยอยฟื้นตัวขึ้นของยอดขายรถใหม่ที่คาดว่า อาจโตได้ในช่วง 7-11% จากช่วงเดียวกันปีก่อนเป็นประมาณ 8.26-8.55 แสนคัน หลังปรับฐานหดตัวลงกว่า 20% ในปี 2563 คงหนุนการเติบโตของยอดคงค้างสินเชื่อเช่าซื้อปี 2564 ให้เติบโตได้ในกรอบประมาณ 3.7-4.5% เทียบกับปี 2563 ที่คาดว่า จะจบปีที่ประมาณ 3.7%  แต่เอ็นพีแอลของสินเชื่อเช่าซื้ออาจเพิ่มขึ้นในกรอบที่ไม่สูงนัก เนื่องจากยังมีมาตรการผ่อนปรนการจัดชั้นหนี้ของธปท. ช่วยอยู่ โดยภาวะการแข่งขันคาดว่า จะกลับมารุนแรงขึ้น โดยเฉพาะตลาดลูกค้าศักยภาพที่มีขนาดเล็กลง หลังผ่านพ้นช่วงโควิด-19 และปัจจัยดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ

ด้านนางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคาร กรุงศรีอยุธยาหรือกรุงศรีออโต้กล่าวว่า ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2563 กรุงศรีออโต้ได้ดำเนินการพักชำระหนี้ให้ลูกค้าเกือบ 9,000 ราย โดยมีมาตรการช่วยเหลือที่ครอบคลุมถึงการปรับโครงสร้างหนี้  ลดค่างวดผ่อนชำระสูงสุด 30% ของค่างวดเดิม ช่วยให้ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ที่ควบคุมสูงสุดตามประกาศของรัฐบาลและการพักชำระค่างวดสูงสุด 3 เดือนครอบคลุมทั้งสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยรวมถึงสินเชื่อจำนำทะเบียนที่พักชำระเฉพาะเงินต้น

นอกจากนั้น ยังได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบตามสภาพการณ์และความจำเป็นเป็นรายกรณี อาทิ การให้พักชำระหนี้หรือการปรับโครงสร้างหนี้ เป็นต้น 

ที่มา : หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,661 วันที่ 14 - 17 มีนาคม พ.ศ. 2564