คลังหวังเงินกระตุ้นเศรษฐกิจดันปี63ไปต่อ

04 ม.ค. 2563 | 23:50 น.

หลังรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศอย่างเป็นทางการ เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก “มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน” จึงถูกผลักออกมาภายใต้วงเงิน 3.16 แสนล้านบาท ภายใต้มาตรการ ช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง 900,900 ราย กระตุ้นการบริโภคและลงทุนประเทศ ผ่านโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” ให้กับประชาชน 10 ล้านคน วงเงิน 10,000 ล้านบาท มาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการรัฐ และพักหนี้เงินต้นกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองฯ(กทบ.)

ตามมาด้วย ชิม ช้อป ใช้ เฟส 2-3 และการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ผ่าน การลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนอง พร้อมสินเชื่อธอส.หลังมีเสียงเรียกร้องจากผู้ประกอบการว่า ได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV ของธปท.อย่างหนัก ตามมาด้วยโครงการ บ้านดีมีดาวน์ เป็นโครงการที่รัฐจะช่วยจ่ายเงินดาวน์บ้านให้ 50,000 บาท

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยืนยันว่ามาตร การที่ออกมาทั้งหมดส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวมไม่ให้ทรุดตัวไปมากกว่านี้จากผลกระทบจากภาย นอก ส่วนเม็ดเงินงบประมาณที่สูญเสียไปถือว่าคุ้มค่าเพราะเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจ ฐานรากของประเทศให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้าและยังเป็นการวางระบบเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาวด้วย

 

 

คลังหวังเงินกระตุ้นเศรษฐกิจดันปี63ไปต่อ

“เราพยายามทำดีที่สุดแล้วแต่เศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้ตามที่สภาพัฒน์มอง 2.8% ซึ่งไม่ได้แย่หรือถดถอย ส่วนปีหน้าก็หวังว่า มาตรการกระตุ้นต่างๆ ที่ออกมาจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นได้ โดยจะขยายตัวได้ไม่ตํ่ากว่า 3% แน่นอน” นายอุตตมกล่าว

สอดคล้องกับนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ที่ระบุว่า โครงการชิม ช้อป ใช้ มีผลต่อการบริโภคในประเทศให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เห็นได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) จากการบริโภคในประเทศเดือนพฤศจิกายน ขยายตัว 3-4% ต่อเนื่องจากเดือนตุลาคมที่ขยายตัว 6% จึงคาดว่า การเก็บ VAT ไตรมาส 4 จะขยายตัวได้ไม่ตํ่ากว่า 5% เพิ่มขึ้นจากครึ่งแรกปีที่ขยายตัวเพียง 1-2% เท่านั้น 

 

แม้มาตรการที่ออกมาสามารถพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยได้จริง แต่ก็ไม่สามารถต้านความตกตํ่าของเศรษฐกิจโลกได้ แต่ยังเชื่อว่า มาตรการที่ออกมาจะมีผลต่อเศรษฐกิจในปี 2563 ให้ดีขึ้นกว่าปี 2562 ได้ เพราะเม็ดเงินที่ใช้จ่ายลงสู่ระบบเศรษฐกิจจริง ขณะที่การดูแลผู้มีรายได้น้อย ผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะเริ่มลงทะเบียนรอบ 2 ช่วงสิ้นเดือนมกราคม ถือเป็นภารกิจหลักของกระทรวงการคลังในปี 2563  

หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,536 วันที่ 2 - 4 มกราคม พ.ศ. 2563