คลังหวังเงินกระตุ้นเศรษฐกิจดันปี63ไปต่อ

04 มกราคม 2563

หลังรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศอย่างเป็นทางการ เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก “มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน” จึงถูกผลักออกมาภายใต้วงเงิน 3.16 แสนล้านบาท ภายใต้มาตรการ ช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง 900,900 ราย กระตุ้นการบริโภคและลงทุนประเทศ ผ่านโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” ให้กับประชาชน 10 ล้านคน วงเงิน 10,000 ล้านบาท มาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการรัฐ และพักหนี้เงินต้นกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองฯ(กทบ.)

ตามมาด้วย ชิม ช้อป ใช้ เฟส 2-3 และการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ผ่าน การลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนอง พร้อมสินเชื่อธอส.หลังมีเสียงเรียกร้องจากผู้ประกอบการว่า ได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV ของธปท.อย่างหนัก ตามมาด้วยโครงการ บ้านดีมีดาวน์ เป็นโครงการที่รัฐจะช่วยจ่ายเงินดาวน์บ้านให้ 50,000 บาท

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยืนยันว่ามาตร การที่ออกมาทั้งหมดส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวมไม่ให้ทรุดตัวไปมากกว่านี้จากผลกระทบจากภาย นอก ส่วนเม็ดเงินงบประมาณที่สูญเสียไปถือว่าคุ้มค่าเพราะเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจ ฐานรากของประเทศให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเฉพาะหน้าและยังเป็นการวางระบบเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในระยะยาวด้วย

 

 

คลังหวังเงินกระตุ้นเศรษฐกิจดันปี63ไปต่อ

“เราพยายามทำดีที่สุดแล้วแต่เศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้ตามที่สภาพัฒน์มอง 2.8% ซึ่งไม่ได้แย่หรือถดถอย ส่วนปีหน้าก็หวังว่า มาตรการกระตุ้นต่างๆ ที่ออกมาจะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นได้ โดยจะขยายตัวได้ไม่ตํ่ากว่า 3% แน่นอน” นายอุตตมกล่าว

สอดคล้องกับนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ที่ระบุว่า โครงการชิม ช้อป ใช้ มีผลต่อการบริโภคในประเทศให้ฟื้นตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เห็นได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) จากการบริโภคในประเทศเดือนพฤศจิกายน ขยายตัว 3-4% ต่อเนื่องจากเดือนตุลาคมที่ขยายตัว 6% จึงคาดว่า การเก็บ VAT ไตรมาส 4 จะขยายตัวได้ไม่ตํ่ากว่า 5% เพิ่มขึ้นจากครึ่งแรกปีที่ขยายตัวเพียง 1-2% เท่านั้น 

 

แม้มาตรการที่ออกมาสามารถพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอยได้จริง แต่ก็ไม่สามารถต้านความตกตํ่าของเศรษฐกิจโลกได้ แต่ยังเชื่อว่า มาตรการที่ออกมาจะมีผลต่อเศรษฐกิจในปี 2563 ให้ดีขึ้นกว่าปี 2562 ได้ เพราะเม็ดเงินที่ใช้จ่ายลงสู่ระบบเศรษฐกิจจริง ขณะที่การดูแลผู้มีรายได้น้อย ผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะเริ่มลงทะเบียนรอบ 2 ช่วงสิ้นเดือนมกราคม ถือเป็นภารกิจหลักของกระทรวงการคลังในปี 2563  

หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,536 วันที่ 2 - 4 มกราคม พ.ศ. 2563